รีวิว beast สัตว์-ร้าย หนังใหม่แนวระทึกขวัญ

ใครที่กำลังหา หนังใหม่แนะนำ แนวระทึกขวัญ เราขอแนะนำรีวิว เรื่อง beast สัตว์-ร้าย ภาพยนต์ทรีลเลอร์ธีมสัตว์ไล่เชื่อด ผลงานล่าสุดจาก baltasar kormákur ผู้กำกับสายผจญภัยสุดระทึกจาก ไต่ฟ้าท้านรก และหนังเรื่องนี้ เรามักจะไม่ค่อยเห็นฉายในโรงภาพยนต์นานมาก ซึ่งหนังได้ฉายแล้ว และสามารถ ดูหนังได้ใน netflix ถ้าใครพร้อมจะอ่านกันแล้วก็ไปกันเลยครับ

หากคุณกำลังพูดถึงหนังเอาชีวิตรอดสุดระทึก ระหว่างสัญชาตญาณของสัตว์และมนุษย์ แน่นอนว่าเราดูหนังแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เราไม่เคยเบื่อมันเลย โดยเฉพาะที่เรามักจะเห็นคนเจอฉลามอยู่บ่อยๆ แต่คราวนี้ ลองเปลี่ยนสถานที่เป็นริมฝั่งและในป่าบ้าง กลายเป็น “เดอะบีสต์ – The Beast” หนังระทึกขวัญเร้าใจเรื่องล่าสุดจากฮอลลีวูด ใครว่า.. เรียงสูตรสำเร็จแบบเดิมแต่อย่าประมาท

beast เรื่องย่อ เป็นเรื่องราวของ ดร.เนท แดเนียลส์ สามีพ่อม่ายผู้ซึ่งกลับมายังแอฟริกาใต้ สถานที่ซึ่งเขาได้พบกับภรรยาครั้งแรก เขาวางแผนเดินทางระยะยาวกับลูกสาวของเขา พวกเขาเดินทางไปยังเขตสงวนซึ่งจัดการโดย มาร์ติน แบทเทิลส์ เพื่อนเก่าของครอบครัวและนักชีววิทยาสัตว์ป่า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การเดินทางเพื่อเยียวยาจิตใจจากความวุ่นวาย กลับกลายเป็นการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัว เพื่อเอาชีวิตรอดจากสิงโตผู้รอดชีวิตจากนักล่ากระหายเลือด ซึ่งตอนนี้มองว่ามนุษย์ทุกคนเป็นศัตรู

ก็อย่างที่เกริ่นเอาไว้ข้างต้นว่า beast คือหนังที่เหมือนยกเอาหนังสำเร็จรูปมาวาง ๆ ตามช่องให้เป๊ะ ทั้งโครงสร้างและจังหวะของหนัง แทบจะไม่ได้มีความแปลกใหม่และแตกต่างไปจากหนังแนวเอาชีวิตรอดเรื่องก่อนหน้าที่สักเท่าไหร่เลย เพียงแต่ว่ามันกระตุ้นความน่าสนใจขึ้นอีกหน่อย ตรงที่โจทย์ที่ต่างไปจากเก่า สถานที่เกิดขึ้นบนฝั่ง ในป่าแอฟริกา และคู่ต่อสู้กับมนุษย์ด้วยนั้น ก็คือสัตว์เจ้าป่า อย่าง สิงโต มันช่างเป็นอะไรที่ฟังดูออกจะเกินจริงไปสักหน่อย แต่หนังเรื่องนี้กล้าที่สร้างออกมา

เป็นผลงานใหม่ของผู้กำกับชาวไอซ์แลนด์ balthazar kormager ซึ่งดูเหมือนจะชอบสร้างภาพยนตร์ที่มีแผนการต่อต้านธรรมชาติ จากผลงานที่ผ่านมา เช่น “ยอดเขาเอเวอเรสต์” และ “ล่องลอย” จะเห็นได้ว่าผลงานเหล่านี้ถูกกำหนดให้ผูกพันกับพลังแห่งธรรมชาติ นี่ถือเป็นงานที่น่าหวาดหวั่น แต่มันไม่ง่ายสำหรับเขา เพราะเวลานี้ธรรมชาติไม่ใช่สิ่งแวดล้อมอีกต่อไป มันเล่นกับจิตวิญญาณของสัตว์แทน

อย่างจริงจัง the beast แทบไม่มีเส้นสาย เพราะใส่ประเด็นต่างๆ เข้ามาในหนัง ดูเผินๆ แทบไม่น่าสนใจเลย เอาตรงๆ 10 นาทีแรกของหนัง เรื่องราวของการปูทางก็พยักหน้าเล็กน้อยในความมืด เพราะเนื้อเรื่องมันเอื่อยๆ เนือยๆ แต่นั่นแหละคือประเด็น เพราะเมื่อหนังดำเนินเรื่องไปถึงจุดๆ หนึ่งจริงๆ มันก็มีความตื่นเต้นในการดำเนินเรื่องเช่นกัน

แม้ว่านี่จะเป็นหนังที่มีกระเป๋าสูตรธรรมดา แต่อย่าประมาทสัตว์ร้ายตัวนี้ เพราะบอกเลยว่าชั่วโมงครึ่งของหนังเรื่องนี้สร้างแรงกระตุ้นและความตื่นเต้นให้กับผู้ชมแบบกำปั้นทุบดิน ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน คุณก็สามารถชนะได้ในนาทีต่อนาที เป็นวิกฤตที่ทำให้ผู้ชมจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า คิดต่อไปว่าตัวละครจะแก้ปัญหานี้อย่างไรและสัตว์ร้ายซ่อนตัวอยู่ที่ไหน

“ไอดริส เอลบา” เป็นนางแบบคนแสดงของภาพยนตร์เรื่องนี้ แม้ว่าตัวละครของเขาจะไม่ค่อยมีความตื้นลึกหนาบาง แต่เขาเล่นได้ดีอย่างมืออาชีพด้วยพลังของหนังที่เป็นทหาร หมอ พ่อ และเพื่อนในเวลาเดียวกัน แต่การพรรณนาถึงธรรมชาติของมนุษย์ที่เปราะบางและไม่ค่อยเก่งเรื่องใดกลับกลายมาเป็นเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้

แม้ว่าหนังจะมีคาแรกเตอร์ที่ทำให้คนดูรู้สึกขัดใจอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะบทสองศรีพี่น้องลูกสาวของตัวละครหลัก เป็นอะไรที่น่ายื่นมือไปหยุมหัวจริง ๆ แต่กระนั้นพวกเธอทั้ง 2 ก็แสดงออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็น “ลีอาห์ เจฟไฟรส์” และ “ไอยาน่า ฮอลลีย์” ถึงบทจะส่งให้ทั้งคู่น่ารำคาญในสายตาคนดูไปอยู่บ้าง แต่ก็ให้อภัย 100% อยู่

งานสร้างและองค์ประกอบของ The Beast ถือว่าทำได้ดี และไม่มีการดูถูกผู้ชมเลยไม่ว่าจะเป็นฉากป่าแอฟริกาที่สมจริงมาก ๆ เมื่อออกแบบเทคโนโลยีพิเศษ สิงโต ตัวเอกของเรื่องนี้ถือได้ว่ามีรายละเอียดมากขึ้น สัดส่วนจะเหมือนกับสัดส่วนใน The Lion King ไลฟ์แอ็กชันของดิสนีย์ ความคิดสร้างสรรค์ก้าวกระโดด จนแทบลืมไปเลยว่าเป็นสิงห์ CG

เมื่อนำมารวมกัน The Beast Movie แอบเซอร์ไพรส์และสร้างความบันเทิงให้ผู้ชมมากกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย แม้ว่าจะไม่มีอะไรใหม่ในการสร้าง หรือวางพล็อตและการเล่าเรื่องด้วยสูตรเดิมๆ ก็ตาม แต่สถานการณ์ของตัวละครในเรื่องนี้กลายเป็นจุดที่ช่วยสร้างอารมณ์ร่วมให้คนดูสนุกและลุ้นไปกับเรื่องราวทั้งหมดจนเผลอก้าวออกมาจากหนัง ที่นั่งในโรงละคร คุณอาจสังเกตเห็นรอยแปลกๆ เล็กน้อยบนที่วางแขน

ด้านการถ่ายทำเองแม้จะใช้โลเคชั่นไม่เยอะ นักแสดงไม่แยะ แต่ก็มีลองเทคแจ่มๆ อยู่หลายช็อต ซึ่งการลองเทคนี้ช่วยเพิ่มความลุ้นในสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี เป็นความระทึกแบบนันสต็อปที่ชวนให้ผู้ชมเหนื่อยไม่แพ้ตัวละครในเรื่องกันเลยทีเดียว

idris elba กับบทบาทในเรี่องนี้แม้อาจไม่ได้โดดเด้งแต่ก็ทำได้อย่างไม่บกพร่อง และไฟต์ซีนช่วงท้ายมันชวนตราตรึงจนพาลเอานึกถึงคำพูดจากหนังอีกเรื่องว่าแกเป็นแบล็คซูเปอร์แมนจริงๆ ขณะที่บทบาทของลูกๆ ก็คือเด็กเปรตที่นำมาซึ่งความวายป่วงทั้งมวล แน่นอนว่ามันชวนน่ารำคาญ ไม่สมเหตุสมผล แต่ตัวละครพวกนี้แหละที่จะนำพาพวกคุณไปสู่ความระทึกสติแตก เพราะหากคนพวกนี้มีสติกันหมดมันก็คงไม่สนุกใช่ไหมล่ะ

beast netflix อาจไม่ใช่หนังที่โดดเด่นบนหน้าโปรแกรม แต่นี่คือหนังที่ขายความระทึกขณะดูได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งหากใครชอบหนังแนวๆ เอาตัวรอดจากสัตว์ร้ายแล้วก็ไม่ควรพลาดหนังเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงภาพยนตร์ เพราะคุณจะได้เห็นสิงโตตัวเบิ้มๆ ได้ยินเสียงคำรามกระหึ่มราวกับมันจ้องจะเล่นคุณอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

สำหรับพล็อตของหนังเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไร หนังส่วนใหญ่เน้นขายความลุ้นระทึกมากกว่า นอกจากนี้ยังเผยให้เห็นสัญชาตญาณดุร้ายของสัตว์ร้ายที่พยายามปกป้องสมาชิกในฝูงของมัน เช่นเดียวกับตัวละครหลักที่พยายามปกป้องครอบครัวของเขา หนังถ่ายทอดตรงนี้ได้ดีและทิ้งความประทับใจไว้อย่างลึกซึ้ง ด้านการแสดงนั้น ไอดริส เอลบา ไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวังอย่างแน่นอน โดยเฉพาะฉากที่อีเทาสู้กับสิงโตคือไฮไลท์ของหนังทั้งเรื่อง อย่าพลาดฉากนี้

สำหรับสัตว์ร้ายนั้นมีอีกจุดหนึ่งที่ควรกล่าวถึง นั่นคือ สัตว์ร้ายเป็นหนัง CGI และสิงโตนั้นเหมือนจริงมาก สมจริงมาก และยิ่งใหญ่มาก เช่นเดียวกับ King of the Jungle แต่ให้ฉันบอกคุณว่าไม่มีสิงโตจริงๆ ในกองถ่ายของหนังเรื่องนี้ มันคือ cgi ทั้งหมด ฉันขอปรบมือให้คุณ ต้องยอมรับว่าการสร้างหนังเรื่องนี้ค่อนข้างโหดร้าย แต่ก็แอบเสียดายที่หนังจบแค่ 93 นาที แต่สนุกแน่นอน

องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ The Beast เป็นภาพยนตร์ที่สนุกสนานคือการถ่ายทำภาพยนตร์ มันสมจริงในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่สถานที่ไปจนถึงความจริงที่ว่าทีมงานบินไปแอฟริกาใต้เพื่อถ่ายทำ ตัวสิงโตเองดูเหมือนจริง แม้ว่าฉันจะแน่ใจว่ามันถูกสร้างโดยใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก แต่มันไม่ได้รู้สึกสวยงามเลย และก็ไม่น่าสนใจเลย ไฮไลท์สำคัญคือการเคลื่อนกล้อง ในฉากเหล่านั้น หากคุณลองสังเกตหลายๆ ฉากจะถูกถ่ายด้วยโหมด Long Take และกล้องที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วตามตัวละครจากด้านหลัง

ช่วยเพิ่มความตื่นเต้นให้กับผู้ชม หลายฉากสลับไปมาจนวุ่นวาย แต่มีจุดที่น่าสงสัยอย่างหนึ่งที่อาจทำให้ผู้ชมอารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัด มีตัวละครสองตัวคือ Mengya และ Nora ที่ดื้อรั้นขัดคำสั่งพ่อจนคนดูก่นด่าเงียบๆ แต่ผู้กำกับก็รู้ว่าคนดูน่ารำคาญ ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เลยให้ตัวละครในหนังด่าก่อน จะยกโทษให้สองคนนี้ หงุดหงิด

beast เป็นหนังระทึกขวัญอีกเรื่องหนึ่ง ชนิดไม่มีพักไม่มีพักเลย ฉากระทึกใจ ชวนให้จิกเบาะ จังหวะของฉาก jump scare ทำได้ดีจนต้องกรี๊ดสุดชีวิตเพราะเดาไม่ออกว่ามันจะบุกยังไงไม่ให้เหยื่อหนีไปง่ายๆ ประกอบกับ cg ของสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะสิงโต ดูสมจริงมาก อีกประเด็นหนึ่งคือภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำฉากต่อฉาก สร้างบรรยากาศที่ตื่นเต้นอย่างต่อเนื่อง และไม่มีการหยุดพัก ทำให้เรื่องราวทั้งหมดรู้สึกน่าเบื่อ

ข้อเสียที่สำคัญคือภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อว่า animal-beast แต่พอมาดูจริงๆ กลับโฟกัสแค่ 1 ตัว ซึ่งค่อนข้างน่าเสียดาย นอกจากนี้ ภาพยนตร์ยังพยายามบอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มนักล่าสัตว์ที่ชอบทำร้ายสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมาย ภาพยนตร์เรื่องนี้มุ่งเน้นไปที่การบดขยี้พ่อเลี้ยงเดี่ยวและครอบครัวที่มีลูกสองคน จนกลายเป็นภาพยนตร์ที่ไม่มีโครงเรื่องและไม่มีความแปลกใหม่หรือความลึก

สรุป – beast สัตว์..ร้าย แม้ว่าเนื้อเรื่องของหนังจะธรรมดาๆ แต่ก็ไม่ลึกล้ำและแปลกใหม่ โชคดีที่ตัวหนังเองมีฝีไม้ลายมือในการออกแบบฉากระทึกที่ชวนขนลุกจนต้องกรีดร้องสุดชีวิต และงานสร้างที่สมจริงอย่างไม่น่าเชื่อ เลยอยากให้แฟนๆที่ชอบหนังทารุณกรรมสัตว์ได้สัมผัสกับความสุขแบบไม่ยั้งในโรงหนัง

โดยรวมแล้ว The Beast เป็นหนังแอ็คชั่นทริลเลอร์ระดับกลางที่จะเปิดตัวในฤดูร้อนนี้ และคุณไม่ต้องการให้แฟน ๆ ที่ชอบความตื่นเต้นเมินเฉย ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเห็นโปสเตอร์ฉันก็เหลือบไปเห็นมัน เมื่อคุณเดินเข้าไปในโรงภาพยนตร์จริง ๆ โดยไม่รู้สึกอยากดูต่อ มันให้ความบันเทิงมากกว่าที่คาดไว้ อีกส่วนที่ทำให้หนังมีความสมจริงมากขึ้นคือการแสดงของ Idris Elba และพัฒนาการของตัวเอก

ภาพยนตร์ไม่ได้พยายามทำให้เขาประเมินค่าสูงเกินไป เขาเป็นแค่หมอที่ไม่มีศิลปะการต่อสู้ ฉากชุลมุนวุ่นวายหลายฉากทำให้ตื่นเต้นมากขึ้นเพราะคนดูรู้ว่าธรรมชาติของมนุษย์ในหนังไม่ได้เก่งกาจเหมือนสิงโตป่า ถ้ามีโอกาส ขอแนะนำให้ทุกคนไปดูหนังเรื่อง The Beast ซึ่งได้อรรถรสกว่าการรอชมในโรงอย่างแน่นอน ระบบสตรีมมิ่ง