รีวิวภาพยนต์มหากาพย์ อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ

สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาแนะนำหนัง รีวิวหนังมาใหม่ ภาพยนต์อเมริกัน มหากาพย์ เรื่อง อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ (Avatar 2)หนังแนวแฟนตาซี ไซไฟ และวิทยาศาสตร์ ที่ได้ผู้กำกับฝีมือดีเจ้าเก่าเจ้าเดิม อย่าง เจมส์ แคเมรอน มากำกับ มาพร้อมกับนักแสดงชุดเดิม นั้นคือ แซม เวิร์ธธิงตัน รับบทเป็น เจค ซัลลี ,โซอี ซัลดานา รับบทเป็น เนย์ทีรี และซีกัวร์นีย์ วีเวอร์ จากภาค1 ที่รับบทเป็น เกรซ แต่ในภาค2 นี้ กลับมารับบทเป็น คิริ สามารถอ่านรีวิวก่อนไปชมในโรงได้แล้วที่นี้

เรื่องย่อ Avatar 2

เรื่องย่อ Avatar 2 จากโศกนาฏกรรมที่เผชิญในภาคก่อน ครั้งนี้ซัลลีและครอบครัวของเขาต้องเผชิญกับเรื่องราวและปัญหาที่พิสูจน์ความรักระหว่างคนในครอบครัว เนื่องจากมีภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ที่ทำให้รับมือได้ยาก จนต้องอพยพไปยังดินแดนชายฝั่งทะเลของดาวแพนดอร่า แน่นอนว่าซัลลีและครอบครัวจะต้องเรียนรู้วัฒนธรรมแบบใหม่ ใช้ชีวิตวิถีริมน้ำ เพื่อหาหนทางปกป้องครอบครัวและต่อสู้ เพื่อเอาชีวิตรอด

โดยหากจะเจาะลึกลงไปถึงเรื่องของภาพแล้ว ภาพยนตร์อวตารภาคแรกก็ได้สร้างความฮือฮาและเป็นที่จดจำไม่น้อย ทั้งความแฟนตาซีของคาแรกเตอร์ของ นาวี ชนเผ่าตัวสีฟ้า โดยสร้างขึ้นจาก CG ได้เนียนตาและแปลกใหม่สุด ๆ ดังนั้นในภาคที่ 2 ซึ่งเจมส์ คาเมรอนใช้ทุนสร้างไปมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท จึงไม่ควรที่จะทำให้เกิดคำวิจารณ์เรื่องภาพอย่างแน่นอน นั่นเองค่ะ

อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ

รีวิว อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ ภาคต่อฟอร์มยักษ์ จัดเต็มครบทุกรส

แม้จะใช้เทคโนโลยีและเทคนิคจากปี 2009 แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าวิชวลเอฟเฟ็กต์ ฉาก และ CGI ของ Avatar ในภาพยนตร์เรื่องแรกนั้นสวยงามและน่าตื่นเต้นมาก จนแฟนๆ หลายคนต่างตั้งตารอและรอคอยภาพของ Avatar 2

แน่นอนว่า “Avatar 2” ไม่ทำให้ผิดหวัง และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ชมที่สร้างความเซอร์ไพรส์ได้แทบทุกฉาก ไม่ว่าจะเป็นฉากในป่าดงดิบที่ปูเรื่องไปสู่พื้นที่ใหม่ ฉากต่อสู้ หรือแม้แต่ฉากกราฟิกใต้น้ำ สมจริงจนแฟน ๆ หลายคนถึงกับต้องกลั้นหายใจราวกับได้ชม Avatar 2 IMAX 3D ภาพและเสียงจะคมชัดราวกับว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของตัวละครในเรื่อง รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การดูหนังรูปแบบใหม่ที่คุ้มค่ากับการรอคอยถึง 13 ปี

การเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวหรือบทนั้นถือเป็นสูตรสำเร็จในการเดาโครงเรื่องและตอนจบได้ แต่เรื่องราวโดยรวมของ Avatar 2 ช่วยเติมเต็มความรู้สึกในปี 2009 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ จนกว่าจะพอใจเพราะคราวนี้เนื้อเรื่องต่อจากภาคเดิมและตัวละครที่เรารู้จักก็เติบโตขึ้นตามกาลเวลา เรื่องนี้มีหลากหลายรสชาติ และเรื่องราวจะจบลงในตอนภายใต้การกำกับของผู้กำกับหรือทุกอย่างสามารถทำได้ใน 192 นาทีโดยไม่พลาดอะไรเลย มันยังเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับ อวตาร 2 วิถีแห่งสายน้ำ อีกด้วย

นอกจากนี้ “อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ” ยังนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจ และเรื่องราวดราม่าแน่นอน การแทรกแซงที่น่าสะเทือนใจระหว่างการต่อสู้และการผจญภัยครั้งใหม่ สะท้อนสังคมปัจจุบันหรือความเป็นไปของบางครอบครัว ดังนั้น ถ้าใครเกิดอารมณ์หรือเจอเหตุการณ์แบบเดียวกับตัวละครในเรื่องรับรองว่ามีจุกหรือน้ำตาซึมแน่นอน

อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ

พล็อตเรื่อง

แม้ว่าหนัง อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ จะเป็นเรื่องราวนอกโลกที่ไม่เคยเกิดขึ้น แต่ก็ตกหลุมรักมันได้ง่ายๆ เพราะในภาคนี้เราจะได้เห็นการเติบโตของตัวละครหลักอย่าง เจค และ เนทิรี ที่มีลูกถึง 4 คน และดูเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งถึงวัยรุ่น ความต้องการความมั่นคงของครอบครัว หรือแม้แต่ปัญหาพื้นฐานของลูกคนที่ 2 ฉันไม่ต้องการถ่านหินมากกว่าใคร นั่นคือความสวยงามของอุตสาหกรรมนี้

ภาคนี้จะให้เราได้เห็นวิถีชีวิตของชาวนาวี  เผ่าเม็ตคายีนา อาศัยริมชายฝั่ง ร่างกายสีเขียว ที่แขนมีแผงยื่นคล้ายครีบ สามารถกลั้นหายใจใต้น้ำได้นานมาก มีความผูกพันธ์และเชื่อมต่อกับสัตว์ทะเลมากกว่าเผ่าของเจค มันเปิดโลกของพวกเราด้วย แต่แม้จะขยายดาวแพนดอร่าให้เราได้เห็นมากขึ้น แต่กลับไม่พบจุดโป๊ะ เลย สมจริงทุกรายละเอียด สวยงามกว่าครั้งที่แล้ว แถมรอบนี้ยกระดับ 3D เทคโนโลยีไปอีกขั้น

ด้วยการถ่ายทำ Motion Capture ใต้น้ำ นักแสดงลงไปแหวกว่าย ถ่ายกันใต้น้ำจริงๆ ทำให้ทุกๆรายละเอียดใต้น้ำคือสมจริง

อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ

เทคโนโลยี แสงและเงาของภาพยนต์เรื่องนี้

รวมถึงการถ่ายภาพด้วยเทคโนโลยีอัตราเฟรมสูง (HFR) ซึ่งจะใช้อัตราเฟรมสองอัตราสลับกันในภาพยนตร์ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในฉากแอคทีฟหลายฉาก เช่น ฉากแอคชั่น ฉากบิน และฉากวิ่ง เฟรมเรตจะใช้ 48 เฟรมต่อวินาที ในขณะที่ฉากอื่นๆ จะกลับมาใช้ 24 เฟรมตามปกติ Cinematic สำหรับภาพยนตร์ ซึ่งอาจทำให้ภาพที่มันวาวดูไม่สม่ำเสมอเล็กน้อย แต่ใช้งานได้จริงและไม่น่ารำคาญ

แม้จะดูในรูปแบบ 3D คุณจะเห็นว่ามันแตกต่างตรงที่ไม่ใช่แค่ภาพป๊อปอัพ แต่มีความลึก ความนูน ความคมชัด และสีสันที่เหมือนจริงจนบางครั้งผู้เขียนยังรู้สึกทึ่ง โดยเฉพาะฉาก 48 เฟรมลื่นเกินไป

และเทคโนโลยี HDR สำหรับช่วงสีที่ลึกขึ้นและคอนทราสต์ของแสงและเงาที่ลึกกว่าที่เคย ถ้าเทียบระบบสามมิติภาคแรกจะเห็นว่าแตกต่างจากภาคแรกมาก รวมถึงงานวิชวลเอฟเฟ็กต์ที่ดีที่สุดในภาพยนตร์ระดับโลก เพราะนอกจากจะสวยงามและสร้างสรรค์ในการออกแบบระบบนิเวศใต้ท้องทะเล 2 ส่วนตามธรรมชาติ สัตว์น้ำ และแม้แต่องค์ประกอบเทคโนโลยี RDA แล้ว การกล่าวว่าคาเมรอนได้สร้างโลกใบใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริง เพราะไม่ใช่แค่สวยงาม ไม่ลอยน้ำ เท่านั้น แต่ยังสมจริงและเต็มไปด้วยรายละเอียดที่น่าทึ่ง ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ในยุคนี้เป็นประเภทที่ต้องการการศึกษาอย่างมาก

จุดประสงค์ของภาพยนต์เรื่อง อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ นี้ ในภาค 1

นับตั้งแต่ Avatar (2009) หรืออวตารภาคแรกออกฉายเมื่อ 13 ปีที่แล้ว สิ่งนี้ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่ามันทำให้ เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ผู้กำกับ เจ้าของโครงเรื่อง ผู้เขียนบท กลายเป็นตัวพ่อผู้มีอิทธิพลในการผลักดันหนังสามมิติอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนจริง ๆ และผลจากการทำงานอย่างยาวนานตลอด 13 ปี ผลที่ได้ก็คือหนังภาคต่อ ที่ว่าด้วยเรื่องของโลกใต้น้ำของดาวแพนดอรา (Pandora) มาตุภูมิของชาวนาวี ใน ‘Avatar: The Way of Water’ เรื่องนี้นี่แหละครับ

เป้าหมายของหน่วยงาน RDA (Resource Development Administration) เปลี่ยนจุดประสงค์จากการขุดหาแร่ ไปสู่การหาพื้นที่เพื่อให้มนุษย์ตั้งรกรากอาศัย ทำให้การรุกรานพื้นที่ของชาวนาวีบนดาวแพนโดรายิ่งทวีความรุนแรงขึ้น พวกเขาก็เลยจำต้องย้ายอพยพไปอยู่ในดินแดนแห่งสายน้ำร่วมกับชนเผ่าทะเลที่เรียกว่า เม็ตคายีนา (Metkayina) ณ ที่นั้น โตโนวารี (Cliff Curtis) หัวหน้าเผ่า, โรนัล (Kate Winslet), ศิเรยา (Bailey Bass) และ อาวนุง (Filip Geljo) จึงต้องสอนครอบครัว ของซัลลีให้อยู่กับวิถีแห่งสายน้ำให้ได้ พร้อมกับต้องรับมือกับภัยคุกคามที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม

จากวิสัยทัศน์ของเจมส์ คาเมรอน คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องชื่นชมบางสิ่งอย่างแน่นอนโดยไม่ต้องคาดเดาใดๆ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าสนามแห่งนี้ได้ผลักดันการสร้างภาพ 3 มิติไปไกลกว่าภาคแรก และเหนือกว่าหนังเรื่องอื่นๆ มาก โดยเฉพาะงานวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์นั้นหาจุดโป๊ะยากจริงๆ ครับ ไม่ใช่แค่สมจริง แต่ก็สมจริงสุดๆ ในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ผืนน้ำ สัตว์ใต้น้ำ ปะการัง พืชทะเล ตั้งแต่ภาพแรกจนถึงภาพสุดท้ายล้วนมีความสวยงามน่าทึ่ง รวมถึงมี Motion Capture ใต้น้ำให้เหล่านาวิกโยธินดำน้ำได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับถ่ายภาพ ในทะเลยังไงก็ได้จริงๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *