รีวิวหนังสยองขวัญ เรื่อง The Unholy เทวาอาถรรพณ์

วันนี้เรามารีวิว หนังผีล่าสุด เรื่อง The Unholy เทวาอาถรรพณ์ เป็นภาพยนต์แนวสยองขวัญ ผลงานการกำกับและเขียนบทของ Evan Spiliotopoulos ซึ่งเราสามารถลุ้นระทึกไปพร้อมกันได้แล้ว ในดูหนังออนไลน์ แบบเต็มเรื่อง และอ่านรีวิวหนังได้แล้วที่นี้

เนื้อเรื่อง

the unholy เรื่องย่อ ว่าด้วยเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่มีชื่อว่า “อลิซ” ผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน เธอเป็นผู้เชื่อและเลื่อมใสศรัทธาในทางศาสนา จนวันหนึ่งเธอสามารถพูดและกลับมาได้ยินเป็นปกติเนื่องจากความศรัทธาในตัวพระแม่มารีย์ ทำให้ทุกคนตกตะลึง อลิซจึงได้พิสูจน์ตัวเอง เพื่อทำให้ทุกคนเชื่อและศรัทธาในตัวพระแม่มารีย์เช่นเดียวกันกับเธอ ด้วยการรักษาผู้คนจากอาการที่ไม่มีวันรักษาได้หายขาดได้ จนเกิดเรื่องราวสุดสะพรึงและหายนะตามมามากมาย ด้วยความเคลือบแคลงใจที่ว่านี่คือพลังที่เกิดจากพระแม่มารีย์จริงหรือไม่

การดำเนินเรื่อง

ในระยะความยาวกว่า 1 ชั่วโมง 39 นาทีนี้ ในช่วงเริ่มมีการเปิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับตำนานเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงยุค 1845 ความน่าตื่นเต้นของหนังในช่วงแรกและกลางทำมาได้ค่อนข้างดี ดึงความสนใจได้พอสมควร ตัวหนังเองจะค่อยๆเล่าและปูรายละเอียดต่างๆลงไป มีการหลอกแบบ Jump Scares ค่อนข้างเยอะ ไม่ได้มีเทคนิคการหลอกหรือลูกเล่นอะไรใหม่เท่าไหร่

เทวาอาถรรพณ์

จุดเด่นและจุดด้อยของหนังผี The Unholy เทวาอาถรรพณ์

บอกตามตรงว่าหนังผี The Unholy Netflix โดยรวมทำออกมาได้น่าทึ่งมาก โดยเฉพาะมุมมองของกล้องและการย้อมโทนสีของเรื่องราว ที่ทำให้รู้สึกสัมผัสได้ถึงความเหนือธรรมชาติที่ “ดีงาม” และ “ชั่วร้าย” แตกต่างกันแบบสุดขั้วในหนังเรื่องเดียวกัน แถมยังสนุกและเข้าใจง่ายอีกด้วย

อีกคนที่ควรค่าแก่การปรบมือคือ Cricket Brown ซึ่งรับบทเป็นอลิซ การแสดงของเธอนั้นทรงพลัง ในทางหนึ่งมันช่วยยกระดับการสะบัดผี ล้างมลทิน เทพเหนือธรรมชาติ และยังเพิ่มอารมณ์และความน่าเชื่อให้กับเรื่องราวอีกด้วย

ภาพยนตร์ผีเรื่อง “Evil Gate” ได้รับการยกย่องอย่างสูงจากผู้ชมและนักวิจารณ์ภาพยนตร์ เนื่องจากในเนื้อหามีคำบรรยายของ “Mary Mary” ที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก ไม่แปลกใจเลยที่หนังจะมีเรตต่ำ

แต่ถ้าพูดอย่างเป็นกลางในฐานะนักเขียนที่ไม่ใช่คริสเตียน ฉันหวังว่าผู้เชื่อจะใจเย็นลงสักนิด เพราะแก่นเรื่องในตอนท้ายของเรื่องทั้งหมดชี้ไปที่ความรักและความเมตตาจากอำนาจที่มองไม่เห็นในสวรรค์

นอกจากนี้หลายคนอาจให้ความสำคัญกับประเด็นศาสนามากเกินไปจนลืมไปว่าหนังเรื่องนี้เป็น “หนังสยองขวัญ” ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับศาสนาแต่เป็นแฟนตาซี เหนือสิ่งอื่นใดหนังพยายามชี้ให้เห็นความเลวร้ายของการทำลายศาสนาทุกวิถีทางไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปสักแค่ไหน กลยุทธ์การเล่าเรื่องและรูปแบบน่าสนใจเช่นเคย

โดยส่วนตัวแล้วฉันคิดว่าส่วนที่อ่อนแอที่สุดของหนังคือ CGI ที่ปรุงมากเกินไปจนน่าตกใจในตอนจบของเรื่อง การใช้สคริปต์ทั่วไปโดยไม่มีอะไรพิเศษคือสิ่งที่หนังผี “Evil Gate” ควรหัก!

เทวาอาถรรพณ์

โดยรวมแล้วหนังผี The Unholy เทวาอาถรรพณ์ น่าดูหรือเปล่า!?

สำหรับผู้เขียนบทหนังผี “คธูลู” เทพเหนือธรรมชาติไม่น่ากลัวเลย แต่โดยรวมแล้วสนุกมาก โดยเฉพาะในเรื่องของศาสนาและความเชื่อ ไม่น่าเชื่อว่าความเชื่อที่งมงายจะฆ่าคนได้

นอกจากนี้ หนังผีเรื่อง The Unholy เทพอภินิหาร ยังมีช็อตเด็ดๆ มุมกล้องและภาพสวยเช่นเคย เรื่องคุณภาพ แม้ตอนจบจะเร่าร้อน ปิดกล้องไว แต่รับรองว่าหนังเรื่องนี้จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมที่รู้จักศาสนาคริสต์ดีพออย่างแน่นอน ดังนั้นผมแนะนำว่าทุกคนต้องมาดูครับ ไม่ผิดหวัง แต่ฉันบอกคุณว่ามันไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเชื่อทางศาสนาที่รุนแรง

วิเคราห์หนัง

หากเราย้อนกลับไปวิเคราะห์ที่มาของวิญญาณชั่วร้าย เจอร์รีซึ่งถูกปลดปล่อยออกมาจากวัตถุโบราณตัดสินใจ “กระทืบ” เท้าของตัวเอง นั่นเพราะเขาต้องการ “ภาพถ่าย” ที่มีเรื่องราวที่จะบอกเล่า เมื่อรวมกับการเพิ่ม “ข้อความ” เขาจะเปลี่ยนองค์ประกอบทั้งสองนี้ให้กลายเป็นข่าวที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้

หลังเกิดเหตุสาวน้อยกลายเป็นใบ้ Reborn Talks Like a Miracle เจอร์รี่รู้ทันทีว่าเรื่องแบบนี้จะเป็นข่าวใหญ่ในไม่ช้า แน่นอนว่าประสบการณ์การทำงานด้านสื่อสารมวลชน ทำให้เขาต้องรีบสวมหน้ากาก และเตรียมเป็น “ผู้จัดการส่วนตัว” ให้กับสาวน้อยอย่างอลิสทันที ไม่ใช่เพราะเขารักใคร่และสนใจแหล่งที่มาของเขา แต่เจอร์รีรู้ดีว่าเขาจะใช้เรื่องราวเหล่านี้หาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองอย่างไร

แม้ว่า The Unholy จะเป็นหนังแนววิญญาณร้ายเข้าสิง ก่อนจะเริ่มแผลงฤทธิ์ออกอาละวาดจนคนที่เกี่ยวข้องกับอลิซจะเริ่มมีอันเป็นไปทีละคนสองคน แต่ด้วยเรท PG-13 ของเรื่องทำให้ฉากการตายของตัวละครอาจจะไม่ได้ดูน่าขนลุกเกรียวหรือชวนแหวะ แต่หนังยังสามารถใช้ประโยชน์จากมุมกล้อง การเร้าอารมณ์ผู้ชมด้วยดนตรีประกอบโครมคราม ตามสูตรสำเร็จ

อีกประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อของมนุษย์และการบูชาอำนาจลึกลับที่มองไม่เห็น ไม่สามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้ว่ายังคงแทรกซึมอยู่ในทุกวัฒนธรรมในสังคมโลก ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม เพราะโรคร้ายของมนุษย์โลกทุกวันนี้ การทำให้คนมองหาปาฏิหาริย์คือการทำให้ชีวิตของเราผ่านพ้นไปได้ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ

ไม่น่าแปลกใจเลยที่อลิซเองอาจคิดว่าเธอเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่โชคดีที่สามารถ “พูด” ได้เป็นครั้งแรกในชีวิต แต่เรื่องราวของอลิซได้กลายเป็นแหล่งของ “ความหวัง” สำหรับคนหลายร้อยคนทั่วโลกที่กำลังมองหาสิ่งที่ดี เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขา โดยที่พวกเขาไม่รู้ทั้งหมด “มันแลกมาด้วยราคา” และแลกกับปาฏิหาริย์แห่งจินตนาการของพวกเขาเสมอ

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือเรื่องความเชื่อและความศรัทธาของมนุษย์ในการเคารพบูชาอำนาจลึกลับที่เรามองไม่เห็น พิสูจน์ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ ยังคงเป็นสิ่งที่แทรกซึมอยู่ในทุกวัฒนธรรมของประชาคมโลก ไม่ว่ากี่ยุคสมัยก็ตาม เพราะบางครั้งท่ามกลางความเลวร้าย ป่วยไข้ของโลกมนุษย์ทุกวันนี้ ทำให้คนมองหาปาฏิหาริย์บางอย่างเพียงเพื่อจะนำพาชีวิตของพวกเราให้ผ่านพ้นจากความทุกข์ยาก ไม่ว่าทางกายหรือทางใจ

คงไม่ใช่เรื่องแปลกใจอย่างใดที่ตัวอลิซเองเธออาจจะรู้สึกแค่ว่า เธอเป็นแค่เด็กสาวโชคดีที่ “พูดได้” เป็นครั้งแรกในชีวิต แต่ เรื่องราวของอลิซกลับกลายเป็น “ความหวัง” สำหรับคนอีกหลายร้อยคนบนโลกที่มองหาเรื่องราวดีๆที่จะมาเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาบ้าง โดยที่พวกเขาไม่เคยรู้เลยว่าทุกอย่างนั้น “มีราคาที่ต้องจ่าย” และแลกเปลี่ยนกับปาฏิหาริย์ในจินตนาการของพวกเขาเสมอ

เทวาอาถรรพณ์

ความรู้สึกหลังดู

โดยส่วนตัวแล้ว ฉันชอบที่จะใส่ความอ่อนไหวทางอารมณ์เพื่อให้เรื่องราวเป็นจริงตามปรัชญาของหนังสยองขวัญแบบดั้งเดิม ศาสนาเข้ามามีบทบาท ด้วยการเปิดตัว The Virgin Mary สิ่งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสิ่งใหม่ นั่นทำให้หนังเรื่องนี้สนุกมาก เชื่อว่าหลายคนอยากดูเพราะปัญหานี้แต่ตัวละครในเรื่องยังขาดมิติ เช่น ฉากหลังไม่ได้เตรียมมาดี

เลยทำให้ตัวละครในเรื่องนี้ดูธรรมดา ตัวละครพื้นฐานที่ไม่ทำให้เรารู้สึกว่ามีส่วนร่วมหรือเกี่ยวข้องกับการที่ “เจอร์รี” (เจฟฟรีย์ ดีน มอร์แกน) เจ็บปวดกับเรื่องราวในอดีตของเขา การมีปมทำให้ขาดสมอง นอกจากนี้ ตัวละครยังฉายพลังที่ไม่เชื่อในการเป็นตัวแทนของศาสนาหรือความเชื่อใดๆ แต่ยังไม่สามารถปลดล็อกบางอย่างเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ได้

ตัวหนังเองก็พยายามที่จะสื่อสารถึงความดีความชั่วที่มีอยู่ในศาสนา สงครามที่ไม่มีวันจบระหว่างความดีกับความชั่ว สิ่งที่เกิดขึ้นมันจริงหรือไม่จริง เหมือนเปิดพื้นที่ให้กับความศรัทธาของแต่ละคนได้ทำงาน แต่ส่วนตัวคิดว่าพลังของหนังเรื่องนี้มันยังไม่พอที่จะส่งให้เรารู้สึกคิดหรือมีส่วนร่วมตามไปด้วยได้ขนาดนั้น และที่รู้สึกผิดหวังอีกอย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี้คือ การแสดงออกของผีพระแม่มารีย์ มันดูเป็นผียุคเก่ามาก หมายถึง

ดูเป็นการหลอกแบบเก่าๆ เชย ไปแล้วสำหรับหนังผี ปี 2021 ตัวผีเองก็ออกมาในทางเอเลี่ยนเสียมากกว่าด้วย เสียดายความเป็นผีพระแม่มารีย์ และหากเทียบกับอีกหนึ่งเรื่องที่ความคล้ายคลึงกันในด้านเนื้อหา กับ Midnight Mass ในประเด็นของความศรัทธา ความมืดดำของจิตใจ ความวิปริตของความศรัทธา เพื่อที่จะผู้ชมไปถึงก้นบึ้งของความศรัทธา เรามองว่าตัว The Unholy ยังขาดตรงนี้อยู่อีกมาก

สรุป เทวาอาถรรพณ์

The Unholy ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับหนังสยองขวัญที่ไม่ได้เลวร้ายนัก แต่ถ้าใครเป็นคอหนังสายสยองขวัญหนังเรื่องนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์ ถือว่ามาเปิดใจลองรับชมผลงานการกับกำหนังสยองขวัญเรื่องแรกของ Evan Spiliotopoulos กันดู โดยรวมก็ถือว่าเป็นหนังสยองขวัญที่ดี มีองค์ประกอบครบถ้วน ไปดูงานภาพ งานเสียง ก็ถือว่าโอเคแล้ว ไปลองทดสอบจิตใจของคุณดูที่ เทวาอาถรรพณ์ หนังผี

ดัดแปลงมาจากนวนิยายสยองขวัญเรื่อง The Temple ของเจมส์ เฮอร์เบิร์ต บอกเล่าเรื่องราวของ “อลิซ” เด็กสาวที่หูหนวกกะทันหัน ความพิการทั้งหมดหายไปเมื่อเธอได้พบกับพระแม่มารี ต่อมาได้ข่าวว่าหลายคนได้เห็นปาฏิหาริย์ด้วยตาตนเอง นักข่าวชายผู้ติดดินบังเอิญมีส่วนร่วมในเหตุการณ์อัศจรรย์นี้ด้วย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเสพข่าวอย่างจริงจัง แต่จนกระทั่งมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นมากมาย เขาเริ่มสงสัยว่านี่คือพระแม่มารีจริงๆ หรืออย่างอื่น?

โดยรวมแล้ว The Unholy เป็นหนังสยองขวัญฮอลลีวูดที่ดำเนินการได้ไม่ดี เรื่องราวซ้ำซาก ตรงประเด็น และไม่มีอะไรซับซ้อนเกินโฆษณา กลยุทธ์การเล่าเรื่องแย่ เนื้อหาน้อยเกินไป ช่องโหว่ร้ายแรง จังหวะของ Liar Ghost ขาดความคิดสร้างสรรค์ การเอะอะจะทำให้ปีศาจกระโดดต่อหน้ากล้องเท่านั้น การเคลื่อนไหวของปีศาจนั้นทำให้เกิดเสียงกรอบแกรบเช่นเคย คุณภาพของการเล่าเรื่องเหมาะสมกับภาพยนตร์สารคดีของผู้กำกับ สำหรับโปรดักชั่นโดยรวมนั้นคุณภาพปานกลาง ส่วนการถ่ายภาพ การออกแบบฉาก หรือเสื้อผ้าหน้าผมล้วนเป็นไปตามธรรมชาติของเรื่อง เน้นความสมจริง ไม่เน้นเด่น แต่ข้อดีคือสเปเชียลเอฟเฟกต์และวิชวลเอฟเฟกต์คุณภาพสูง ดูเน้นความสมจริงมาก…ใครเป็นแฟนหนังสยองขวัญแนวฝรั่งบ้าง? หาหนังดูให้ผ่านๆ จะได้ไม่คิดมาก อย่าคาดหวังว่าเนื้อเรื่องจะซับซ้อน เข้าโรงหนังไปดูกันเลย!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *