รีวิวหนังใหม่ จากละครสู่ภาพยนตร์ บุพเพสันนิวาส 2

สวัสดีค่ะ วันนี้เรามา รีวิวหนังใหม่ บุพเพสันนิวาส2 เป็นภาพยนต์ไทยที่ทุกคนรอคอยกัน เรื่อง บุพเพสันนิวาส 2 ผลงานของผู้กำกับ ปิ๊ง อดิสรณ์ (ผู้กำกับ รถไฟฟ้า มาหานะเธอ) มาพร้อมกับนักแสดงนำ คู่จินสุดฟินที่ใครๆต่างก็รู้จักอย่าง โป๊บ รับบทเป็น ภพ และ เบลล่า รับบทเป็น เกสร บอกได้เลยว่าฟินจิกหมอนกันไปข้างแน่ๆ จากภาค 1 สู่ภาคต่อ ก็ยังคงเป็นพรหมลิขิตเหมือนเดิม และตอนนี้หนังเรื่องนี้ก็มีให้ทุกท่านได้ชมกันแบบเต็มเรื่องแล้วใน Netflix

เรื่องย่อ บุพเพสันนิวาส 2

บุพเพสันนิวาส 2 เรื่องย่อ ของหนังก็คือ เมื่อครั้งสมัยอยุธยา พี่หมื่นและเกศสุรางค์ (a.k.a.การะเกด) ครองรักครองเรือนจนตายจากไปแล้ว แต่ทั้งคู่ได้มีโอกาสกลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้งในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น พี่หมื่นมาเกิดเป็น ‘ภพ’ (ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) นายช่างหนุ่มหล่อที่ฝันถึงหญิงนางหนึ่ง และเชื่อหมดใจว่าเป็นบุพเพสันนิวาส จนเมื่อเขาได้พบเจอกับ ‘เกสร’ (ราณี แคมเปน) ชาติภพใหม่ของเกศสุรางค์ที่หน้าเหมือนญิงในฝัน ภพเลยคิดจะเกี้ยวพาราสี แต่เพราะเกสรเรียนกับบาทหลวงฝรั่ง เกสรเลยเป็นหญิงหัวก้าวหน้าและไม่ได้เชื่อบุพเพสันนิวาส แถมเจ้าหล่อนกำลังสนใจ ‘เมธัส’ (พาริส อินทรโกมาลย์สุต) หนุ่มหน้าฝรั่งใส่เสื้อแสงอุษาพูดจาผิดยุคไปเสียอีกแน่ะ

บุพเพสันนิวาส 2

เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ที่หนังหยิบมาทำ

เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ไทยยุครัชกาลที่ 3 ที่ตัวละครเอกทั้งสามต้องเข้าไปพัวพันคือ การมีบทบาทของนักธุรกิจชาวต่างชาติคนดังอย่าง นายหันแตร (แดเนียล เฟรเซอร์) เจ้าของห้างฯ แห่งแรกในประเทศไทย ที่เสมือนเป็นหนึ่งในตัวร้ายในหน้าตำราเรียนวิชาประวัติศาสตร์ไทย เพราะมีความขัดแย้งทางการค้ากับราชสำนัก ซึ่งในหนังหมายถึงเสด็จในกรม (นนกุล ชานน) เกี่ยวกับเรือกลไฟ ‘เอ็กสเปรส’ ที่นำมาเสนอขายแก่สยามประเทศ นอกจากนี้ หนังยังมีบุคคลสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ไทยยุคนั้นคนอื่นๆ อีกเช่น สุนทรภู่ (นิมิตร ลักษมีพงศ์)และหมอบรัดเลย์

ส่วนเจ้าชู้ของพระนางเป็นส่วนที่เราไม่ค่อยสนใจนัก รู้สึกว่าหลายฉากไม่จำเป็น เหมือนเสิร์ฟแฟนคลับคิมหรือโฟรเซ่นเลย ในอดีตผู้เขียนนวนิยายมีราคาแพงมาตั้งแต่แรก การเป็นที่ปรึกษาเราก็ทำได้ดีเพราะพยายามนำเสนอประวัติศาสตร์ด้วยสายตาที่สดใหม่และการตีความประวัติศาสตร์ที่แตกต่างจากในตำราเรียน แม้ว่าโลกจะยังสวยงามและยึดติดกับลัทธิชาตินิยมมาก แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่หนังไทยเรื่องต่อไปสามารถแสดงจุดแข็งและพัฒนาต่อไปได้

แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่หนังทุนดีฟอร์มยักษ์ที่พลิกตำนานประวัติศาสตร์อยุธยา หนังดัดแปลงเล่าเรื่องกรุงรัตนโกสินทร์ ทำรายได้กว่า 50 ล้านบาท เข้าฉายวันเดียว

บุพเพสันนิวาส 2

การเดินเรื่อง เรียกได้ว่าทำออกมาดีมาก

เรื่องราวของ บุพเพสันนิวาส 2 เต็มเรื่อง เรียกได้ว่าปังปุริเยสืบไปในทุกภพชาติ เพราะเปลี่ยนบรรยากาศของความเป็นอยุธยากรุงเก่า สู่ setting ของยุครัตนโกสินทร์ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 โดยเรื่องราวทั้งหมดถูกเล่าผ่านตัวละครเอกคู่ขวัญอย่าง “ภพ” , “เกสร”, และ “เมธัส” ในยุคสมัยที่นายห้างหันแตรนำเรือเอ็กซ์เพรสเข้ามาขายในสยาม

ตัวหนังเดินเรื่องอย่าง “ภพ”,  “เกสร” , และ “เมธัส” ก็เดินเรื่องได้ดี แทบไม่มีที่ติ โป๊ปเบลล่า คือ นักแสดงที่เหมาะแก่การเป็นคู่พระนางของเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์แบบ ดูแล้วสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของ “พี่หมื่น-น้องการะเกด” และ “พี่ภพ-น้องเกสร” นอกจากนี้ ในภาพยนตร์เรื่องนี้คุณจะได้เห็นพัฒนาการการแสดงอีกขั้นของไอซ์ พาริส อย่างแน่นอน

มีความพยายามที่จะเดินตามรอยเวอร์ชั่นละคร ใส่ครบรส ครบเครื่อง ครบเครื่องเรื่องประวัติศาสตร์รักบวกกับหนังแอคชั่น แฟนๆ น่าจะถูกใจแฟนละครไทยแต่ภาพรวม “ยาก” และ “ยาก” กว่า เราคาดหวังไว้ ไม่แน่ใจเพราะมันยาวมากหรือเพราะเรื่องราวทั้งหมดไม่สมบูรณ์และทำให้เรารู้สึกน่าสนใจน้อยลง

เท่าที่เราทราบ หนังพยายามไม่ให้เนื้อเรื่องซ้ำกับเวอร์ชั่นละคร โดยเฉพาะธีมหลักที่แม้จะเป็นเนื้อเรื่องเดียวกัน “บุพเพสันนิวาส” ก็สมราคา แต่เอาจริงๆเรายังไม่รู้จะอธิบายความหมายของคำนี้ยังไง บุพเพสันนิวาส ฉบับภาพยนตร์ ค่อนข้างซับซ้อนและทันสมัยเกินไปหน่อย ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่โดยส่วนตัวแล้ว เราอาจอยากให้มันเรียบง่ายและเจาะลึกกว่านี้

บุพเพสันนิวาส 2

พล็อตเรื่องและด้านต่างๆของหนัง บุพเพสันนิวาส 2

พล็อตเรื่องของภาพยนตร์เรื่อง “บุพเพสันนิวาส2” ยังคงสไตล์คล้ายกับละครกล่าวคือการเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์ในรูปแบบที่ดูทันสมัย เข้าใจง่าย ยิ่งได้ปิ๊ง อดิสรณ์ ผู้กำกับมือทองระดับแนวหน้ามาควบคุมดูแลผลงาน ยิ่งมีความบันเทิงศิลป์ ตบมุขโบ๊ะบ๊ะกันอย่างไม่ดูยัดเยียด และให้กลิ่นอายของความเป็นไทยที่ดูแล้วไม่น่าเบื่อ

ในส่วนของงานภาพ แสง สี ของหนังเรื่องนี้ GDH ทำได้ตามมาตรฐานของตนเอง เพราะงานภาพคม ละเอียด และค่อนข้างสมจริงเป็นอย่างมาก จะมองไปทางไหนก็สวยไปเสียทุกฉาก ไม่ว่าจะเป็นฉากเอฟเฟ็กต์ ฉากบู๊ ฉากรักโรแมนติก และอื่น ๆ อีกมากมายที่รอให้คุณมาชมด้วยตาตนเอง บอกตามตรงว่า CG เรื่องนี้ต้องใช้คำว่า “เริ่ดไม่ไหว”

ในด้านของงานเสียง ซาวด์เอฟเฟ็กต์ต่างๆ ใส่เข้ามาในภาพยนตร์ได้อย่างลงตัว งานเสียงที่ปังที่สุด คือ เพลงประกอบภาพยนตร์ “ถ้าเธอรักใครคนหนึ่ง” ที่ได้นักร้องสาวพราวเสน่ห์อย่าง อิ๊งค์  วรันธร มาขับร้อง ความลงตัวของเพลง คือ การไม่ยัดเยียดความเป็นไทยมากจนดูขัดหู แต่เป็นการร้องสบายๆในสไตล์อิ๊งที่ฟังแล้วดูมีความไทยประยุกต์ และชวนเคลิบเคลิ้ม เชื่อว่าหลายคนที่ดูภาพยนตร์จบไป จะต้องกลับไปเปิดเพลง “ถ้าเธอรักใครคนหนึ่ง” คลอไปตลอดวันตลอดคืน

หากจะให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องชื่นชมคือการวางโครงเรื่อง การสร้าง และการจัดฉากต่างๆ ทำได้ลงตัว มันเป็นพล็อตที่เข้าใจยากซึ่งมีเสน่ห์ตรงที่มันเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะโดยไม่ดูถูกผู้ชม แต่เนื้อหาก็เข้มข้นไปด้วยเกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์มากมายเช่นกัน ยังเป็นช่วงเวลา 3 นาทีที่ถ่ายทอดกลิ่นอายความเป็นไทยในกรุงรัตนโกสินทร์ราวกับกิ่งก้านสาขาสีทองของรุ้งกินน้ำ ใครรู้ประวัติศาสตร์หรืออ่านเรื่องราวในยุคนั้นน่าจะสนุกกว่า เช่น คุณปาแลมัวร์ หันตรา หมอบรัดเลย์ และสุนทรภู่ รีวิวหนังใหม่

รีวิวภาพยนตร์ งานเปิดตัวหนัง

หากนึกย้อนไปเมื่อครั้งออกอากาศตอนแรกของละครเรื่องนี้ นอกจากความฮาและความประทับใจอย่างท่วมท้นแล้วสิ่งของเล็กๆน้อยๆ ในละครยังกลายเป็นพลังอ่อนของคนไทยในการแต่งตัวกินใช้เล่น กระแสจากไทยเสิร์ฟกุ้งเผา หมูย่าง มะม่วงน้ำปลาหวาน พี่หมื่นแร็พ ด่าการะเกด (มึงเป็นกบฏ) โล้สำเภา, พ่อน้ำฝน, มนต์กฤษณะกาลี,มีม พี่กิ๊ก, สุวัจนี ฯลฯ ยังนำนิยายต้นฉบับของ ‘รอมแพง’ (จันทร์ยวีร์ สมปรีดา) ยอดฮิตจนมีการพิมพ์ซ้ำหลายครั้ง

ถ้ายังจำกันได้ ในงานเปิดไลน์อัปผลงานของ GDH ที่ชื่อว่า ‘GDH Xtraordinary 2021 Line Up‘ที่จัดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว มีไตเติลอันหนึ่งที่เปิดตัวครั้งแรกในงานนั้นด้วยนั่นก็คือ ‘บุพเพสันนิวาส ๒’ ที่ถือว่าฮือฮามากเพราะว่าเป็นผลงานร่วมทุนครั้งแรกของ GDH และ ‘บรอดคาซท์ไทยเทเลวิชั่น’ หยิบเอาผลงานละคร ‘บุพเพสันนิวาส’ (2561) ที่เคยสร้างกระแส‘พีหมื่น-การะเกด’ ที่เคยกวาดเรตติงละครสูงทะลุถึง 18.6 ส่วนวันพุธ – พฤหัสบดีที่ออกอากาศเพลาใดเทรนด์ทวิตเตอร์ก็ติดอันดับมิได้ขาดสาย มาสร้างในรูปแบบภาพยนตร์นะออเจ้า

ตัวหนัง บุพเพสันนิวาส 2 Netflix อำนวยการสร้างโดย ‘พี่พิง'(อดิศร ตรีศิริเกษม) ผู้กำกับ ‘ไวด์สกรีนฟิล์ม’ เจ้าของผลงาน ‘เสาร์ไฟ มหาเทพ’ (2552) ) ละครโทรทัศน์ ‘น้ำตากามเทพ’ (2558) กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ แถมยังตื่นเต้นเพราะเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ขาย Digital Token เพื่อระดมทุนผ่าน Destiny Tokens ที่ขายหมดแล้ว ระดมทุนได้ทั้งหมด 265 ล้านบาทและรายชื่อผู้ระดมทุนจะได้รับเครดิตในฐานะผู้อำนวยการสร้างในตอนท้าย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *