รีวิวหนัง Transformers Rise of the Beasts ทรานส์ฟอร์เมอร์สกำเนิดจักรกลอสูร

รีวิวหนัง Transformers Rise of the Beasts

และนี่คือภาพยนตร์ภาคต่อที่ทุกคนตั้งตารอ ที่ในวันนี้ผู้เขียนอยากจะขอมา รีวิวหนัง Transformers Rise of the Beasts หนึ่งในแฟรนไชส์ทรานส์ฟอร์มเมอร์สอันเป็นที่รัก เตรียมพาแฟน ๆ ไปสู่การเดินทางที่น่าตื่นเต้นสู่โลกของออโต้บอทส์และดีเซปติคอนส์อีกครั้ง ภาพยนตร์ที่อัดแน่นไปด้วยแอ็คชั่นนี้กำกับโดย Steven Caple Jr. ผู้มากความสามารถ พร้อมมอบประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ที่น่าตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน 

 

ในจักรวาล Transformers “Rise of the Beasts” นำเสนอบทใหม่ในเทพนิยายนี้ ขยายตำนานและแนะนำให้แฟน ๆ รู้จักกับตัวละครใหม่ทั้งหมด เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1994 ในบรูคลิน รัฐนิวยอร์ก ที่ซึ่งออพติมัส ไพรม์และออโต้บอทของเขาเผชิญหน้ากับภัยคุกคามโบราณที่ทรงพลังซึ่งบังคับให้พวกเขารวมพลังกับพันธมิตรที่ไม่คาดคิด ขณะที่การต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่วทวีความรุนแรงขึ้น ชะตากรรมของทั้งมนุษยชาติและ Transformers ก็แขวนอยู่บนเส้นด้าย ช่องทางการรับชม ดูหนัง4k

รีวิวหนัง Transformers Rise of the Beasts

รีวิวหนัง Transformers Rise of the Beasts ผลงานกำกับโดย สตีเฟน เคเปิล จูเนียร์

รีวิวหนังชนโรง ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังคงได้ 2 ผู้ให้กำเนิดภาพยนตร์เรื่องนี้ นั่นก็คือ สปีลเบิร์ก และป๋าเบย์ ที่ยังคงมานั่งแท่นโปรดิวเซอร์ใหญ่ค่ะ ส่วนเก้าอี้ผู้กำกับ ได้แฟนเดนตายทรานส์ฟอร์เมอร์ สตีเวน เคเปิล จูเนียร์ (Steven Caple Jr.) ผู้กำกับหนังมวย ‘Creed II’ (2018) มานั่งแท่นรับหน้าที่ โดยในภาคนี้ จะนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้ของหุ่นจักรกลฟอร์มสัตว์ป่าจากแอนิเมชันสามมิติ ‘Beast Wars: Transformers’ (1996–1999) ในรูปแบบของหนังจริง เป็นครั้งแรกที่ซีรีส์นี้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์จริง โดยน้อง ๆ ที่อายุประมาณ 30 ปีขึ้นไปน่าจะเป็นเป็นผู้ที่คุ้นเคยกับการ์ตูนเรื่องนี้ซึ่งออกอากาศทางช่อง 7 บ้างแหละ

รีวิวหนัง Transformers Rise of the Beasts

ส่วนตัวผู้เขียนเองไม่ใช่แฟน Transformers สักเท่าไหร่ แต่เคยดูบางภาคในยุคเด็กๆ และเมื่อเห็นภาคนี้ที่ไม่ต่อเนื่องกับเรื่องเก่าพอสมควร เราเลยตัดสินใจที่จะดูโดยไม่คาดหวังอะไร และพบว่ามันสนุกมากๆ ภาพแอ็คชั่นดี การเอาเรื่องสะท้อนได้ดี หนังเริ่มด้วยการแสดงให้เรารู้ว่าภาคนี้เกี่ยวกับการแย่งชิงกุญแจที่ Maximals ซ่อนไว้ที่โลกหลายพันปี เราได้รู้จักกับตัวละคร Noah และเข้าใจและฉลาดมากขึ้น การเล่าเรื่องน่าสนใจที่ไม่น่าเบื่อ เพลิดเพลินมากๆ มีการใส่เรื่องตลกเข้ามาให้เราหัวเราะบ้าง งั้นมาอ่านเรื่องย่อกันต่อเลยดีกว่าค่ะ

เรื่องย่อ

เรื่องราวของหนังเริ่มต้นในปี 1994 เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ใน ‘Bumblebee’ ประมาณ 7 ปี ณ เมืองบรูกลิน นิวยอร์ก โนอาห์ ดิแอซ (Anthony Ramos) เป็นอดีตพลทหารหนุ่มเชื้อสายลาตินที่ต้องการหางานเพื่อช่วยเหลือแม่และน้องชาย แต่ไม่สามารถหางานได้ในที่ใด จนกระทั่งเขาได้พบกับมิราจ (Pete Davidson)

 

รถยนต์ Porsche 964 Carrera RS 3.8 สีเงินคาดแถบน้ำเงินที่เป็นหุ่นรบออโตบอตที่อาศัยอยู่บนโลก พร้อมกับ ออปติมัส ไพร์ม์ (Peter Cullen) หุ่นรบหัวรถบรรทุกหัวลาก Freightliner FLA ปี 1 หัวหน้าของกลุ่ม อาร์ซี (Liza Koshy) เป็นคนที่ขับหุ่นรบสาวซิ่ง Ducati 916 และตะน้อนบัมเบิลบี Chevrolet Camaro สีเหลือง-ดำ ซึ่งเป็นคนดีคนเดิม ที่กำลังอยู่ในกระบวนการหาทางกลับสู่ดาวไซเบอร์ทรอน

รีวิวหนัง Transformers Rise of the Beasts

ในเรื่องนี้ เอเลนา วอลเลซเป็นนักโบราณคดีที่ทำงานในพิพิธภัณฑ์โบราณคดี และเธอพบเบาะแสบางอย่างที่เรียกว่า “ทรานสวอป คีย์” ซึ่งเป็นกุญแจที่สามารถพาเธอไปยังมิติต่าง ๆ ทั่วจักรวาลได้ ออโตบอตและเทอร์เรอร์คอนส์ก็ต้องการกุญแจนี้เพื่อใช้ในเรื่องการเดินทางของพวกเขา เอเลนาถูกส่งสัญจรจากสเกิร์จจอมโหดมาตามไล่ ซึ่งแอเรเซอร์ตัวแทนของเผ่าแม็กซิมัล ได้พากลุ่มออโตบอตรวมทั้งนออาห์และเอเลนาไปเจอกับแม็กซิมัลรุ่นสุดท้ายที่ลี้ภัยมายังโลกในป่าแถบประเทศเปรู เพื่อหวังจับมือกันในการค้นหาทรานสวอป คีย์และปกป้องโลกกันจากการถูกยูนิครอนกลืนกิน

 

ประเภท: แอ็คชัน/ไซไฟ/ผจญภัย

นำแสดงโดย: แอนโทนี่ รามอส, โดมินิค ฟิชแบ็ค และปีเตอร์ ดิงค์เลจ

กำกับโดย: สตีเวน เคเปิล จูเนียร์

ความยาว: 117 นาที

รอบฉายครั้งแรก: 7 มิถุนายน 2566 (คาดว่าจะเข้าฉายในไทยวันที่ 7 มิถุนายน 2566)

การดำเนินเรื่อง

ถึงแม้ว่า “Rise of the Beasts” ซึ่งมีความสัมพันธ์กับภาพยนตร์ “Bumblebee” แต่อาจเรียกได้ว่าเป็นภาคต่อหรือภาคใหม่โดยการใช้เรื่องราวและองค์ประกอบต่างๆ จากภาคที่ 4 และภาคที่ 5 ซึ่งอาจเป็นการเล่าเรื่องในจักรวาลของ “Transformers” นี้ตั้งใจที่จะเคลื่อนที่ในทิศทางที่ต่างไปจากเรื่องปกติของ “Transformers” และอาจจะมีผู้ชมที่นึกถึงภาคแรกของภาพยนตร์ 

 

“Transformers” เพราะภาคนี้ใช้โครงสร้างและวิธีการเล่าเรื่องมากจากภาคแรก โดยเฉพาะเนื้อหาเกี่ยวกับเด็กชายกับสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ทำให้คิดถึงภาพยนตร์ “E.T.” การถอดความข้อความนี้อาจมีหลายวิธีเช่นกัน อาจมีความหมายดังนี้: ในคำพูดนี้ผู้พูดยอมรับว่ามีสาวเซ็กซี่อยู่มากมาย แต่เมื่อไม่มีสาวเหล่านั้นแล้วความผิดรวมทั้งปัญหาก็หมดไป อีกวิธีหนึ่งคือผู้พูดอาจคิดว่าปัญหาห้ามสาวเซ็กซี่มีเท่านั้น และการขาดสาวเหล่านี้ก็เป็นไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด

รีวิวหนัง Transformers Rise of the Beasts

จะต้องยอมรับว่าหนังเรื่องนี้มีความพยายามที่จะอัปเดตและเปลี่ยนแฟรนไชส์ ‘Transformers’ ใหม่ในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นการปรับดีไซน์หุ่นรบใหม่เพื่อคล้ายกับเวอร์ชันการ์ตูน (G1) และการปรับคาแรกเตอร์ของหุ่นต่าง ๆ ให้มีความใกล้ชิดมนุษย์มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาตัวละครให้มีความเป็นมนุษย์และมีความรู้สึกนึกคิดมากขึ้น

 

นอกจากนี้ยังมีการนำตัวละครหลักอย่างมิราจไปเป็นเพื่อนกับมนุษย์ และกำหนดเส้นเรื่องเกี่ยวกับมิราจกับโนอาห์ อีกทั้งยังมีการเพิ่มเนื้อเรื่องของบัมเบิลบีในภาคนี้ ซึ่งทำให้มิราจกลายเป็นตัวละครที่ดังและมีความสำคัญในภาคนี้ เพื่อให้ผู้ชมได้เข้าใจเนื้อเรื่องอย่างถ่องแท้

ภาพ ฉาก แสง สี เสียง ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

ตามที่คาดหวังจากภาพยนตร์ Transformers “Rise of the Beasts” มีกำหนดจะส่งมอบ เอฟเฟ็กต์ภาพอันน่าทึ่งที่จะทำให้ผู้ชมต้องมนต์สะกด การออกแบบที่ซับซ้อนของ Transformers บวกกับการบูรณาการ CGI ได้อย่างราบรื่น จะทำให้หุ่นยนต์เหล่านี้มีชีวิตขึ้นมาด้วยรายละเอียดที่น่าทึ่ง ตั้งแต่ฉากแอ็กชันระเบิดไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง ภาพยนตร์เรื่องนี้สัญญาว่าจะสร้างความตื่นตาตื่นใจ

ดูหนัง4k

ตัวละครใหม่ในเรื่อง คือหนึ่งในแง่มุมที่น่าตื่นเต้นที่สุดของ “Rise of the Beasts” คือการแนะนำตัวละครใหม่ที่จะ เอาใจแฟนๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเอา Transformers อันโด่งดังในยุค 90 เช่น Optimus Primal, Mirage และ Nightbird พร้อมด้วย Maximals, Predacons และ Terrorcons ตัวละครที่หลากหลายนี้เพิ่มความแปลกใหม่ให้กับแฟรนไชส์ ​​โดยนำเสนอไดนามิกใหม่และการขยายจักรวาล Transformers ในรูปแบบที่น่าตื่นเต้น

รีวิวหนัง Transformers Rise of the Beasts ฉากที่ประทับใจ

ภาพยนตร์ในภาคนี้มีความน่ารับชมสูงมาก ขอชื่นชมทีมงานที่สร้างหนังให้ออกมาได้เป็นอย่างดีให้ผู้ชมได้รับรู้รายละเอียดต่าง ๆ ของคอมมิคได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นโมเดลของออปติมัส ไพรม์ หรือสีของมิราจ การเล่นของพี่แกแสดงได้อย่างดีเยี่ยม อีกอย่างที่น่าสนใจคือตัวละครร้ายใหม่ยูนิคอร์นที่มีความแข็งแกร่งมาก

 

ภาพในหนังสวยงามและน่าชมอีกด้วย บางฉากอาจมีภาพลอยๆ แต่ก็ยังดูดีพอสมควร ในส่วนของตัวละครฝ่ายมนุษย์เน้นเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว แสดงได้ดีเยี่ยมและมีสิ่งใหม่ๆที่น่าตื่นตาตื่นใจให้คนดู ฉากเอ็นเครดิตที่สุดท้ายให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่ ผู้เขียน เชื่อว่าแฟนบอยของ Transformers จะรู้สึกกรี๊ดแน่นอน แฟรนไชส์ของ Transformers ยังไปได้อีกไกลแน่นอน

ดูหนัง4k

ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าฉากที่เราคิดว่าชอบที่สุดในภาคนี้คือ การแสดงฉากแอ็คชั่นที่ดีทุกฉาก แถมยังฉลาดด้วยการให้มีการสู้กันหลายครั้งและแบ่งเป็นช่วงๆ เรื่องเล่าต่อเรื่องแอ็คชั่นอีกรอบและเรื่องเสร็จสิ้นด้วยแอ็คชั่นตอนท้าย ฉากที่ชอบที่สุดคือฉากต่อสู้ตอนท้ายเพราะมันดูยิ่งใหญ่และบันเทิงมาก เราได้เห็นหุ่นยนต์ทุกตัวรวมพลังกัน

 

และฉากที่ Bumblebee โดดลงจากเครื่องบินมาช่วยตอนท้ายพร้อมเพลงประกอบเป็นฉากที่เรารู้สึกว่าเท่และฟินมาก ฉากร่วมต่อสู้ของ Noah, Optimus Prime และ Optimus Primal ก็เป็นฉากที่ผู้เขียนชอบมากเช่นกัน เป็นงาน CGI ที่ดีโดยรวมแม้ว่าบางฉากอาจจะไม่สมจริงบ้าง แต่มันเป็นส่วนน้อยมากๆ ภาคนี้เป็นหนึ่งในภาคที่สนุก ดูเพลิน และดูหุ่นยนต์เท่ ด้วยฉนั้นถ้าคุณสนใจฉากแอ็คชั่นและหุ่นยนต์ ผผู้เขียนขอยืนยันว่าคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน

บทสรุปภาพยนตร์

ถึงแม้จะบอกว่าการเล่าเรื่องกระชับและรวดเร็วแต่ก็ต้องยอมรับว่าบทก็มีข้อบกพร่องเช่นกัน เพราะผลลัพธ์ของสูตรสำเร็จเกินไป ทุกอย่างดูง่ายเกินไปหรือเปล่า? ทุกอย่างดูเหมือนจะเร่งรีบ อย่างไรก็ตาม มันก็สมเหตุสมผลสำหรับเขาที่ต้องการทำการตลาดบริการของเขาไปยังกลุ่มเป้าหมายของเขา ด้วยการสาธิตอุณหภูมิของหุ่นยนต์ถึง 3 กลุ่ม เขาจำเป็นต้องเข้าร่วมในเวลาเดียวกันกับหุ่นยนต์เหล่านี้ เป็นประโยชน์ที่การเล่าเรื่องของหุ่นเชิดยังสามารถเชื่อมโยงกับตัวเอกได้

ดูหนัง4k

โดยส่วนตัวแล้ว เราพบว่าความขัดแย้งระหว่างความสัมพันธ์ของโนอาห์และมิราจเป็นเรื่องที่น่าสนุก การออกแบบส่วนนี้ทำให้รูปลักษณ์ของ Optimus Prime สามารถรองรับได้ อย่างไรก็ตาม มีแง่มุมหนึ่งของภาคส่วนนี้ที่ไม่เหมือนกับสาขาอื่นๆ คือ ฝ่ายมนุษย์มีส่วนร่วมในความขัดแย้งมากกว่าภาคอื่นๆ ทั้งสองฉากนี้มีส่วนสำคัญในการพยายามค้นหากุญแจและมีส่วนร่วมในการต่อสู้กับหุ่นยนต์เอเลี่ยนในตอนจบด้วย สำหรับเรา ฉากต่อสู้ในตอนจบของเรื่องทั้งน่าทึ่งและน่าหลงใหล นอกจากนี้เพลงที่หลากหลายยังเป็นประโยชน์อีกด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *