รีวิว Life on Mars 2018 ข้ามเวลามาสืบ

Life on Mars 2018 ข้ามเวลามาสืบ

Life on Mars 2018 ข้ามเวลามาสืบ

Netflixแนะนำ ซีรีส์เกาหลีอีกเรื่องที่รีเมคจากของประเทศอังกฤษในชื่อเรื่องเดียวกัน โดยต้นฉบับได้มีการออกอากาศครั้งแรกในปี 2006 ทางช่อง BBC และได้รับความสนใจอย่างท่วมท้นจนถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปออกอากาศในหลายประเทศ ดูหนังเถื่อน นอกจากนั้นแล้วเรื่องนี้ยังเคยได้รับการรีเมคในเวอร์ชั่นอเมริกามาแล้วด้วยและได้รับเสียงตอบรับที่ดีเช่นเดียวกัน ในส่วนของเวอร์ชั่นเกาหลีนั้นหลังจากการออกอากาศทางช่อง หนังฟรี OCN ไม่นานทาง BBC ได้ให้สัมภาษณ์ชื่นชมถึงความยอดเยี่ยมในการพยายามคงเรื่องราวหลักเดิมของต้นฉบับไว้ได้อย่างครบถ้วนพร้อมๆกับทำให้เข้ากับยุคสมัยและวัฒนธรรมเรื่องราวในประเทศของตนเองได้อย่างธรรมชาติ หนังใหม่ ในด้านของตัวเลขเรตติ้งจากผู้ชมทั่วประเทศที่วัดโดย AGB Nielsen นั้นสูงสุดได้ถึง 4.834% ในตอนที่ 12 สำหรับช่องเคเบิ้ลถือว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆสำหรับความเจ๋งของละครรีเมคเรื่องนี้ เว็บดูหนังไม่มีโฆษณา

Life on Mars 2018 ข้ามเวลามาสืบ

ดูหนัง ฮันแทจู (รับบทโดย จองคยองโฮ ผลงาน : Prison Playbook / Missing 9 / Falling for Innocence) เจ้าหน้าที่แผนกนิติวิทยาศาสตร์ ขึ้นเป็นพยานในคดีฆาตกรรม คำให้การของเขาทำให้ผู้ต้องหาพ้นจากข้อกล่าวหา ดูหนังออนไลน์ เนื่องจากเขาพบว่าหลักฐานปรากฏสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ ส่งผลให้หลักฐานขาดความน่าเชื่อถือ อัยการเจ้าของคดีซึ่งเป็นคนรักเก่าของเขา ไม่พอใจอย่างมาก

หลังจากนั้นไม่นาน ดูหนังฟรี คนร้ายที่ได้รับการปล่อยตัวก็ลักพาตัวคนรักเก่าของเขาไป เขาเข้าร่วมการไล่ล่าตามหาตัวเธอ ระหว่างที่เขาไล่ตามคนร้าย อยู่ในตรอกซอกซอยและกำลังจะจับตัวคนร้ายได้นั้น เขากลับถูกชายปริศนาอีกคน ดูหนัง ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ และทำให้คนร้ายหนีไปได้ แทจูได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ดูหนังออนไลน์ และขณะที่เขาออกมาจากจุดเกิดเหตุ เขากลับโดนรถชนเข้าอย่างจัง

เมื่อเขาลืมตาขึ้้นอีกครั้ง เขาพบว่าตัวเองย้อนเวลามา 30 ปี และอยู่ในปี 1988 ท่ามกลางความสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาพบว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกย้ายตัวมาจากโซล เขาเข้าร่วมทำงานกับทีมสืบสวนที่นำโดย คังดงชอล (รับบทโดย พัคซองอุง ผลงาน : Man to Man / Remember / Hidden Identity) ในคดีที่มีความคล้ายคลึงกับช่วงเวลาที่เขาจากมา

Life on Mars 2018 ข้ามเวลามาสืบ

พล็อตเรื่องข้ามเวลาที่คุ้นเคย

การทำงานในปี 1988 ที่คำว่า DNA ยังเป็นเรื่องใหม่ ระบบทะเบียนราษฎร์ยังเป็นแผ่นกระดาษ และไม่มีีข้อมูลออนไลน์ การทำงานของตำรวจแบบเก่าๆ ที่ซ้อมผู้ต้องสงสัยเพื่อให้สารภาพ หรือกระทั่งการสร้างหลักฐานปลอมเพื่อมัดตัวคนผิด ทั้งที่ความจริงไร้หลักฐาน แทจูอึดอัดมากที่ต้องทำงานกับคนกลุ่มนี้ แต่ก็ยังมี มิสยุน (รับบทโดย โกอาซอง ผลงาน : Radiant Office / Heard It Through the Grapevine) เจ้าหน้าที่หญิง ที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือจิปาถะล้านแปดในสถานีตำรวจ ที่แอบซ่อนความสามารถด้านการวิเคราะห์คนร้ายและความช่างสังเกตของเธอ คอยช่วยงาน รวมทั้งให้กำลังใจเขาในช่วงเวลาที่กำลังสับสน ว่าเขามาทำอะไรอยู่ที่นี่

ระหว่างที่เขาใช้ชีวิตในฐานะตำรวจในปี 1988 แทจูมักได้ยินเสียงประหลาดในหัวของเขาเสมอ เสียงที่บอกให้เขาอดทน อย่ายอมแพ้ เสียงที่บอกว่าตอนนี้เขาเป็นผู้ป่วยอาการโคม่า ที่กำลังได้รับการประคับประคองอาการอยู่ในโรงพยาบาล เสียงที่บอกว่เขาจะได้กลับมา แทจูไม่เข้าใจว่าอะไรคือความจริง อะไรคือความฝัน นี่คือภาพลวงที่เขาสร้างขึ้นเองงั้นเหรอ แต่ที่น่าแปลกคือ ความทรงจำในวัยเด็กที่เลือนลางและขาดหายของเขา ดูเหมือนจะค่อยๆปรากฏชัดขึ้น ความทรงจำที่เขาลืมเลือนมันไป หรือความจริงมันอาจจะเลวร้ายจนเขาไม่อยากจดจำ

Life on Mars 2018 ข้ามเวลามาสืบ

แทจูจะใช้ความสามารถและสิ่งที่เรียนรู้จากปี 2018 ไปใช้ในปี 1988 ได้มากแค่ไหน และถ้าเขาอดทน เขาจะได้กลับมาในปี 2018 อีกหรือไม่ และความทรงจำที่ขาดหายไปคืออะไร ติดตามเรื่องราวของเขาได้ใน Life on Mars

ไปทางไหนไม่สำคัญหรอก เพราะไม่ว่าอยู่ที่ไหน คุณก็ยังเป็นคุณคนเดิมไม่ใช่คนอื่น ถ้าพยายามเต็มที่แล้วกับทุกอย่าง มันก็จะกลับมาเหมือนเดิม “

คำพูดของพนักงานในร้านอาหารที่อินซองโฮเต็ลเพื่อปลอบใจฮันแทจู ในตอนที่ 2

Life on Mars 2018 ข้ามเวลามาสืบ

ไขคดีแบบยุค 1998

กลไกการลำดับเรื่องราวของละครเรื่องนี้ จะบอกเล่าถึงการแก้ไขคดีต่างๆในยุค 1988 ผสมปนเประหว่างความเฮฮาปาจิงโกะในการทำงานสไตล์เก๋าเกมส์แบบเน้นการใช้กำลังเป็นหลักของผู้กอง คังดงชอล ที่ชอบถกเถียงทะเลาะกันในการทำงานอยู่ตลอดเวลากับ คู่ปรับข้ามเวลาอย่าง ฮันแทจู ผู้หมวดที่ต้องมีหลักฐานชัดเจนและปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ตัดสลับกับ เสียงปริศนาที่ดังอยู่ตามที่ต่างๆระหว่างการดำรงชีวิตในยุค 1988 ของ ฮันแทจู เหมือนจงใจทิ้งร่องรอยหลักฐานให้ผู้ชมได้ร่วมค้นหาไปพร้อมกันกับตัวละครว่าทำไมเขาถึงย้อนเวลากลับมา ณ ตรงนี้กันแน่ ซึ่งทีมงานสามารถเรียบเรียงเรื่องราวได้อย่างมีชั้นเชิง, เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อนมากเกินไป และน่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง

 

คุณลุงคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่หัวจากอุบัติเหตุ ทำให้เขาจำคำหลายคำไม่ได้ และเขาเป็นทุกข์มาก หลังจากนั้นไม่นานได้ไปเจอคุณลุงอีกทีพร้อมกับรอยยิ้ม เพราะว่าคุณลุงหยุดคิดที่จะหาคำตอบแล้ว หลังจากที่ทำแบบนั้นสิ่งที่ทุกข์ใจก็หายไปหมดเลย “

ยุนนายอง เล่าเรื่องตอนเธอทำงานพิเศษให้ ฮันแทจู ฟังเพื่อให้เขาหยุดคิดในตอนที่ 2

Life on Mars 2018 ข้ามเวลามาสืบ

สิ่งที่ใช้ในการเชื่อมโยงตัวละคร ฮันแทจู จากในยุค 2018 กับ 1988 นั้นคือคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ตัวฆาตกรจะทาเล็บสีแดงให้กับเหยื่อทุกคนที่ถูกเขาฆ่า ระหว่างพยายามตามล่าผู้ต้องสงสัยในคดีนี้นี่เองที่ทำให้ฮันแทจูได้รับบาดเจ็บสาหัสจนย้อนเวลากลับไปในยุค 1988 และกลับกลายเป็นว่ามีคดีแบบเดียวกันเกิดขึ้นในยุค 1988 ตรงพื้นที่ที่เขามาร่วมงานเช่นเดียวกัน เครื่องหมายคำถามจึงเกิดขึ้นประมาณ 100 คำถามในสมองว่าตกลงทั้งหมดมันคืออะไรกันแน่

มีหลายจุดที่ทำให้นึกถึงซีรีส์อีกเรื่องที่คลับคล้ายคลับคลากันนั่นก็คือ Tunnel ละครดังอีกเรื่องของ OCN ทั้งการข้ามช่วงเวลาในระหว่างการตามล่าคนร้ายซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องราว, การไปแก้ไขคดีต่างๆเพื่อทำให้ได้กลับไปในช่วงเวลาเดิมของตัวเอง และ การใช้ทักษะจากยุคเวลาของตนเองมาแก้ไขคดีในอีกยุคซึ่งต้องมีการปรับตัวและเข้าหากันกับคนในทีมให้จงได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วก็ถือว่าเป็นคนละเรื่องอยู่ดี รสชาติความสนุก, กลิ่นอายการเล่าเรื่อง รวมถึงภาพและโทนสีก็แตกต่างกัน ซึ่งใน Life on Mars ถือว่าทำการบ้านในยุค 1988 และให้ภาพโทนสีเก่าๆทำให้ได้ความรู้สึกยุคนั้นได้อย่างสมบูรณ์รวมถึงการหยิบยกเหตุการณ์สำคัญในยุคนั้นอาทิเช่น การจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 1988 ในกรุงโซลและการซ้อมเตรียมตัวหากเกิดภัยสงครามจากความขัดแย้งทางการเมืองกับเกาหลีเหนือ ตามปกติของซีรีส์เกาหลีที่ความสนุกก็มีแผ่วลงบ้างบางช่วงแต่โดยส่วนใหญ่แล้วเพลิดเพลินใจตลอดรอดฝั่ง คอละครแนวนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน

” ความขัดแย้งในใจคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด “

คำพูดของ คังดงชอล ในตอนที่ 4

ทีมนักแสดงที่เป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เรื่องราวมีความสนุกสนาน ไม้เด็ดของเรื่องนี้คงหนีไม่พ้น พัคซองอุง ในเรื่องรับบทเป็น คังดงชอล เป็นมือเก๋าประจำสถานีตำรวจ แต่นอกเรื่องเขาคือหนึ่งในความคุณภาพของวงการบันเทิงเกาหลีใต้เลยก็ว่าได้ ฝีมือยังดีงามเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะบทบู๊ทำได้สมจริงจนแอบสงสัยไม่ได้ว่านั่นเฮียตบเตะจริงเลยรึเปล่า กลัวคู่กรณีบาดเจ็บจริง และ จองคยองโฮ ก็ยังคงเสน่ห์ของทักษะเฉพาะตัวในการแสดงได้เหมือนเดิมถึงแม้เรื่องนี้บทจะเคร่งขรึมก็ตามเพราะตัวละครนี้เรื่องเครียดเยอะจริงๆ แต่ในส่วนของ โกอาซอง กับบทตำรวจสาวคนเดียวในทีมและในเรื่อง ต้องยอมรับเลยว่าไม่เคยได้ชมงานแสดงของเธอมาก่อน พอได้ลองชมก็ถือได้ว่าเธอเป็นนักแสดงที่เล่นได้ดีและมีคุณภาพอยู่สูงเลยทีเดียว

” สมองของมนุษย์มีความทรงจำแค่ 5% ส่วนที่เหลือถูกเก็บไว้ในจิตใต้สำนึก มันเป็นกลไกการป้องกันตัวเองของมนุษย์จากความทรงจำไม่ดี เพราะฉะนั้นอย่าไปจำทุกอย่างเลย บางความทรงจำลืมมันไปเสีย ดีกว่าจะจดจำมันได้ “

คำพูดของ ยุนนายอง ในตอนที่ 8

Life on Mars 2018 ข้ามเวลามาสืบ

ประเด็นหนึ่งที่ได้มาจากในละครคือเรื่องของสภาวะความเป็นเพศหญิงในยุคสมัยก่อนซึ่งจากในเรื่อง ยุนนายอง นางเอกและตำรวจสาวคนเดียวในทีม งานที่เธอมักจะได้รับมอบหมายส่วนใหญ่จะเป็นพวกงานเอกสาร, ชงกาแฟ, ทำความสะอาด หรือว่าง่ายๆพวกงานจับฉ่ายที่ผู้ชายไม่ทำก็โยนมาให้เธอหมด หลังจากที่ ฮันแทจู เข้าร่วมทีม ด้วยความที่มาจากโลกปัจจุบันที่ไม่มีการแบ่งแยกเพศหรือชนชั้นแล้ว เขาจึงปฏิบัติกับเธอดั่งเช่นเพื่อนร่วมงานปกติคนหนึ่งซึ่งนั่นทำให้เธอประทับใจในตัวเขามาก ในขณะเดียวกันตัว ยุนนายอง เองเป็นคนที่ชื่นชอบการทำงานตำรวจเป็นอย่างมาก เธอจึงจดรายละเอียดทุกอย่างและเมื่อได้รับมอบหมายงานใดเธอจะได้ข้อมูลมาอย่างครบถ้วน ซึ่งนั่นเป็นผลจากการที่เธอทำงานมากกว่าคนอื่นๆในทีม และในเวลาต่อมาผู้กองคังดงชอลที่ชอบใช้เธอชงกาแฟ ก็เริ่มมองเห็นเธอมากขึ้น และเธอไม่ได้เป็นแค่เสมียนอีกต่อไป … เรียนรู้จาก ยุนนายอง ในการจะทำให้คนยอมรับด้วยการ “ทำ” มากกว่าการ “พูด”

“ เวลาทำกุกพับ (ก๋วยเตี๋ยวในซุปหมูของเกาหลี) เราจะใส่สมุนไพรลงไป เพื่อกำจัดกลิ่นคาวแต่มันก็ช่วยไม่ได้ เพราะกลิ่นคาวมันมาจากเนื้อด้านใน แต่ถ้าเราเลือกเนื้อสดและล้างเลือดให้หมดก่อนปรุง ก็จะไม่มีปัญหานี้เลย เหมือนกันกับถ้ามีปัญหา ก็ต้องหาสาเหตุของปัญหาให้เจอเสียก่อน ถึงจะแก้ปัญหานั้นได้ “

คำพูดของพนักงานในร้านอาหารที่อินซองโฮเต็ลสอนฮันแทจูในตอนที่ 8

เสน่ห์อีกอย่างของเรื่องราวการข้ามเวลาแบบนี้คือทำให้ผู้ชมได้มองเห็นจุดแข็งและจุดด้อยของสิ่งต่างๆในแต่ละช่วงเวลา สำหรับ ฮันแทจู จากในปี 2018 ที่มีทั้งกล้องวงจรปิด มีทั้งการตรวจ DNA มีเทคโนโลยีทันสมัยมากมายที่พร้อมจะให้พิสูจน์หลักฐาน แต่หาความจริงใจกันในสังคมแทบจะไม่มี เมื่อต้องไปอยู่ในยุคที่มันยังไม่เทคโนโลยีเหล่านี้ หากอยากจะได้ข้อมูลอะไรซักอย่างสิ่งที่ทำได้คือการใช้สัญชาติญาณและการหาข้อมูลจากชาวบ้านในละแวกนั้นด้วยการเรียกรวมตัวกันแบบธรรมดาๆ แต่ความรักความจริงใจมันมีอยู่เต็มไปหมด บทสรุปของคำถามมากมายกับการแก้ไขคดีต่างๆในแบบที่ไม่คุ้นเคย พร้อมกับมิตรภาพจากเพื่อนร่วมงานที่ได้มาในแบบที่ไม่คิดว่าน่าจะมี แล้ว ฮันแทจู จะกลับไปในโลกปัจจุบันได้หรือไม่ …. บทสรุปที่ต้องรอพิสูจน์ด้วยตาของคุณเอง

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *