รีวิว Now, We Are Breaking Up

Now, We Are Breaking Up

Now, We Are Breaking Up

ซีรีส์แนวโรแมนติกดราม่าเรื่องนี้ได้พระนางสุดฮอตอย่าง ซงฮเยคโย และ จางกียง มาประกบคู่กันครั้งแรกกับเรื่องราวความสัมพันธ์ที่มีทั้งคำว่ารักและการเลิกรา รีวิวซีรีส์เกาหลี เสริมเรื่องด้วยฉากหลังในวงการแฟชั่น บอกเลยว่าแซ่บตั้งแต่ต้นเรื่องเพราะออนแอร์ตอนแรกก็มีการจัดเรตผู้ชม 19+

จากความสัมพันธ์แบบวันไนต์สแตนด์ของหญิงสาวที่ไม่ยอมคบกับผู้ชายคนใดมาเนิ่นนาน เธอเพียงคิดว่ามันก็แค่หนึ่งคนที่ผ่านไป แต่หารู้ไม่ว่า หนังฟรี เธอจะไม่มีดิ้นหลุดไปจากเขาคนนี้ เมื่อจู่ๆ เธอก็กลับได้มาเจอเขาอีกถึงสองครั้ง ในวันที่เธอต้องไปนัดแทน และวันที่เธอต้องการตากล้องฉุกเฉินเพื่อถ่ายแบบเสื้อผ้า ดูหนังออนไลน์ เธออาจไม่สนใจจะจำหน้าด้วยซ้ำ แต่ยังไงก็เถอะ

นั่นแหละเขา…ชายหนุ่มที่ปูซานในคืนนั้น

แท้จริงเขาคือ มิสเตอร์เจ และมีอีกหนึ่งชื่อเล่นว่า คุกกี้ หนังฟรี แต่แท้จริงแล้วเขาชื่อ ยุนแจกุก ตากล้องฟรีแลนซ์มือฉมังที่ใครๆ ต่างก็ต้องการตัว แถมยังเป็นชายหนุ่มที่เกลียดการแต่งงาน ความบังเอิญทำให้เขาต้องไปนัดแทน ผอ.ฮวัง และเจอกับหญิงสาวที่เคยวันไนต์ด้วยกัน ความสัมพันธ์เริ่มก่อตัวพร้อมๆ กับความขัดแย้งระหว่างคนทั้งคู่ เมื่อชายที่เธอเข้าใจว่าเขาทิ้งเธอไปและทำให้ใจเธอยึดติดตลอดมานั้นหาใช่ใครอื่น แต่เป็นพี่ชายของแจกุกคนนี้นี่เอง

นี่คือเรื่องราวความฝันของความรัก…และการเลิกรา

Now, We Are Breaking Up

Now, We Are Breaking Up

ฮายองอึน เป็นหัวหน้าทีมดีไซเนอร์ประจำแฟชั่นแบรนด์ชื่อดัง เธอเป็นผู้หญิงที่มีแนวคิดในทางสัจนิยมและอุปนิสัยเยือกเย็น แต่ก็มักจะให้ความสำคัญกับความมั่นคงในตัวเองก่อนเสมอ เธอเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ เต็มไปด้วยวินัยในตัวเอง และจิตใจมักจะอ่อนไหวไปตามแรงลม ในขณะที่เขาคือ ยุนแจกุก ช่างภาพแฟชั่นฟรีแลนซ์ที่มีชื่อเสียง นอกจากความหล่อเหลาแล้ว เขายังเฉลียวฉลาด ฐานะมั่นคง และเต็มไปด้วยเสน่ห์อันแพรวพราว

 ฮายองอึน (รับบทโดย ซงฮเยคโย) ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในวงการแฟชั่น เธอคือสาวสวยสุดมั่นที่ทั้งฉลาดและทำงานเก่ง แต่ไม่สนใจในเรื่องความสัมพันธ์ จนคนอื่นมักมองว่าเธอเป็นผู้หญิงเย็นชา แต่เมื่อได้พบกับ ยุนแจกุก (รับบทโดย จางกียง) ช่างภาพแฟชั่นชื่อดัง อะไร ๆ ก็พลิกผันอย่างไม่คาดคิด เขาเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของยองอึนกลับเป็นบางสิ่งที่มีในตัวเขา ทั้งคู่เริ่มต้นความสัมพันธ์จาก One Night Stand จนได้มาเจอกันอีกครั้งอย่างไม่คาดฝัน แรงดึงดูดที่มีทำให้พวกเขาต่างตกหลุมรักกัน แต่ชีวิตจริงนั้นไม่ใช่เทพนิยายที่จะจบลงอย่างมีความสุขเสมอไป แล้วเรื่องราวของพวกเขาจะจบลงอย่างไร

ซงฮเยคโย รับบทเป็น ฮายองอึน นักออกแบบแฟชั่นที่มีความฝันอันยิ่งใหญ่มาก เธอใฝ่ฝันที่จะทำงานในวงการแฟชั่นมาโดยตลอดและยอมละทิ้งชีวิตรักของตัวเองเพื่อที่จะให้ตัวเองบรรลุเป้าหมาย ตัวละครนี้เป็นตัวละครหญิงที่ค่อนข้างเย็นชา เยือกเย็นแต่มีเป้าหมายมาก ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ของผู้หญิงยุคใหม่ที่เดินได้ด้วยเท้าของตัวเองไม่เพิ่งพาความรักหรือผู้ชายเพื่อนำตัวเองไปอยู่ในที่สูง ผู้เขียนมองว่าตัวละครนี้น่าสนใจมากถ้าเป็นผู้หญิงทั่วไปเมื่อจะเข้าสู่ช่วงอายุ 40 แล้วจะเป็นกังวลเพราะยังไม่แต่งงานทั้งที่คนรอบข้างตัวเองมีลูกและแต่งงานกันไปหมดแล้ว แต่ฮายองอึนไม่ได้เป็นแบบนั้นเธอสวย เริ่ด เชิด หยิ่งไม่แคร์ผู้ชายยืนด้วยเท้าสองข้างของตัวเองอย่างมั่นคง แต่ถึงแม้เธอจะมีมุมอ่อนแออยู่บ้างแต่ก็ไม่อยากแสดงให้ใครเห็น

จางกียง รับบทเป็น ยุนแจกุก ช่างภาพแฟชั่นฮอตช็อตซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการแฟชั่น เขาเป็นคนรูปหล่อ หุ่นดีและมากความสามารถ โดยพื้นฐานแล้วยุนแจกกุกมีครอบครัวที่ร่ำรวยอยู่แล้วแต่เขาชอบความเป็นอิสระมากกว่า ยุนแจกุกได้พบกับฮายองอึนและทั้งสองก็วันไนท์สแตนด์ด้วยกันที่ฝรั่งเศส ในระหว่างนั้นฮายองอึนไม่ได้คิดจะสานความสัมพันธ์กับเขาต่อแต่ยุนแจกุกต้องการ แต่ความโชคดีในความโชคร้ายก็มีอยู่เพราะโชคชะตาพาเขากลับมาหาเธอในกรุงโซล แต่ฮายองอึนกลับทำตัวเฉยเมยต่อเขาและแกล้งจำเขาไม่ได้ ยุนแจกุกไม่เคยคิดจะยอมแพ้กับความรักในครั้งนี้แต่ก็ต้องเจอกับอุปสรรคในความรักมากมาย

Now, We Are Breaking Up

ชเวฮีซอ รับบทเป็น ฮวังชีซุก ลูกสาวของประธานบริษัท ‘The One’ และมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการทีมออกแบบ เธอเป็นทั้งเจ้านายและเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนของฮายองอึน เธอเป็นคนที่มองหาความรักโรแมนติกแต่มักจะได้เจอกับความผิดหวังอยู่เสมอ

เซฮุน (EXO) รับบทเป็น ฮวังชีฮยอง ลูกชายคนเล็กของประธานบริษัท ‘The One’ เขาเป็นดีไซเนอร์หน้าใหม่ของบริษัท เป็นชายหนุ่มที่มีทั้งเสน่ห์เหลือล้นและความน่ารักในตัว

ความแซ่บ 19+

การดำเนินเรื่องรวดเร็ว น่าติดตาม บวกกับความแซ่บนัวของพระนางตั้งแต่ต้นเรื่อง เพราะการพบกันครั้งแรกของทั้งคู่คือคนแปลกหน้าที่มี One Night Stand ด้วยกันนั่นเอง ตอนแรกนางเอกก็คิดว่าพวกเขาคงจะไม่ได้เจอกันอีก แต่โชคชะตาดันเล่นตลกให้ทั้งคู่เจอกันอีกครั้ง แม้เธอจะจำเขาไม่ได้ในตอนแรก แต่เมื่อได้ใกล้กันมากขึ้นเธอก็จำพระเอกของเราได้ในที่สุด

ระหว่างนั้นก็มีเรื่องราวต่าง ๆ ที่ทำให้ทั้งคู่ได้มาทำงานร่วมกันได้ใกล้ชิดกันจนก่อเกิดเป็นความรู้สึกและความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกว่าที่คิด แต่ด้วยกำแพงในใจของทั้งคู่ โดยเฉพาะนางเอกที่มีปมเกี่ยวกับเรื่องความรัก ไหนจะเรื่องงานและความต่างที่เข้ามามีผลต่อความสัมพันธ์อีกล่ะ ประกอบกับชื่อเรื่องที่เหมือนจะสปอยเราว่าพระนางอาจจะเลิกกันแต่ยังไม่เลิกรักไหมนะ? ตรงนี้ก็ต้องรอลุ้นไปพร้อมกันแล้วล่ะ ความน่าสนใจอีกอย่างของเรื่องคือเราจะได้เห็นการทำงานในแวดวงแฟชั่นทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง พร้อมกับคอสตูมแบบจัดเต็ม เรียกว่าน่าสนใจไม่แพ้การลุ้นไปกับความรักของพระนางเลยจ้า

Now, We Are Breaking Up

เคมีและความฟินของพระนาง จัดว่าดีเลิศแบบ 10/10 แถมคู่นี้ยังหล่อสวยแบบตาแตกมากกก จางกียงในบทยุนแจกุก คาริสม่าแรงเกินต้าน แถมเปี่ยมไปด้วยความแพรวพราวแบบผู้ชายเพลย์บอยที่ไม่คิดจะจริงจังกับใคร แต่แพ้ในความสามารถและทัศนคติการทำงานของนางเอก ในขณะที่ซงฮเยคโยในบทฮายองอึน เป็นสาวบ้างานที่ความสามารถรอบด้าน แม้จะไม่ได้คิดถึงเรื่องความรักเลย แต่ทั้งคู่เหมือนได้เจอกับคนที่มีแพชชั่นเดียวกัน เลยทำให้ทั้งเขาและเธออยากรู้จักตัวตนของอีกฝ่ายให้มากขึ้น แน่นอนว่าพระเอกของเราเปิดเกมรุกก่อน (มีแววคลั่งรักมาแต่ไกล) ช่วงแรกนางเอกจะยังไม่เปิดใจเท่าไรเพราะนางมีปมในใจอยู่ แต่ถ้ามีซีนหวานเมื่อไรล่ะก็เตรียมตัวฟินจิกหมอนกันได้เลย

การโคจรมาพบกันครั้งแรกของซงฮเยคโยและจางกียงค่ะ ผลงานที่สร้างชื่อของซงฮเยคโยคือ Descendants of the Sun ที่ชาวไทยของเราติดกันงอมแงม ส่วนผลงานล่าสุดที่สร้างชื่อของจางกียงคือ My Roommate Is a Gumiho  หลายคนต่างรอคอยซีรีส์ที่ซงฮเยคโยและจางกียงประกบคู่กันเพราะอยากรู้ว่าทั้งสองจะเข้ากันดีขนาดไหน? ขอบอกก่อนเลยว่าซีรีส์เรื่อง Now, We Are Breaking Up นี้เป็นซีรีส์ทิ้งทวนก่อนเข้ากรมของจางกียงด้วย

ด้วยความที่นางเอกอยู่ในแวดวงแฟชั่น เป็นหัวหน้าทีมออกแบบของ ‘เดอะวัน’ บริษัทแฟชันชั้นนำ งานของเธอจึงเกี่ยวข้องในหลายๆ ภาคส่วนของวงการ ซีรีส์จะพาเราไปซอกซอนถึงการเกิดดับของแบรนด์เสื้อผ้า นอกเหนือจากการออกแบบ การเดินแบบ การถ่ายแบบ ก็เดินเข้าไปหาถึงสถานที่ผลิตและตัดเย็บอีกต่างหาก ยิ่งซีรีส์ดำเนินผ่านมากตอนเข้า เราก็คงจะได้เห็นแง่มุมอื่นในวงการนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ไม่ว่าจะเป็นความจริงที่ว่า เทรนด์นั้นมาไวไปไวเสมอ การทำงานของพวกเขาเหมือนต้องจับกระแสให้ไวและส่งมันออกสู่ตลาดให้ทันกับกระแสที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค ทั้งยังต้องพบเจอปัญหาหลายหลากระหว่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นการถูกลอกเลียนแบบทั้งที่เพิ่งวางขายหรือแม้กระทั่งสั่งตัดไปเพียงวันเดียว การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างที่ต้องถ่ายแบบกันใหม่เพราะอีกวันต้องใช้พรีเซนต์ แบรนด์แฟชันที่ลดความนิยมลงจนต้องหันมานำแบรนด์ต่างประเทศมาทำตลาด อะไรแบบนี้

มุมมองความรักของผู้ใหญ่

นอกจากซีรีส์เรื่องนี้จะจัดอยู่ในเรต 19+ แล้วซีรีส์เรื่องนี้ยังนำเสนอมุมมองความรักของผู้ใหญ่ได้ดีมาก ซึ่งความรักนี้มักจะสอดแทรกอยู่ในการดำเนินเรื่องเลยค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าตัวละครแต่ละตัวสะท้อนชีวิตรักของตัวเองได้ดีมากและตรงกับแนวคิดความรักของปัจจุบันเป็นอย่างดี ตัวละครและมุมมองความรักที่ผู้เขียนอยากจะพูดถึงมากที่สุดก็คือมุมมองความรักของฮายองอึนและจอนมีซุกซึ่งทั้งสองนั้นเป็นเพื่อนกันแต่มีมุมมองและเส้นทางในความรักที่แตกต่างกัน ฮายองอึนมีอายุเท่ากับจอนมีซุกแต่เธอไม่เลือกที่จะแต่งงาน สิ่งที่เธอเลือกคือสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองเพราะหลังจากเลิกกับยุนซูวานไปฮายองอึนก็ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องแต่งงาน ดังนั้นการสร้างที่พึ่งพิงด้วยตัวเองจึงเป็นความต้องกันของฮายองอึน สำหรับตัวของฮายองอึนนั้นมองว่าความรักนั้นไม่จำเป็นเท่ากับความมั่นคงในชีวิต เธอจึงเลือกที่จะละทิ้งความรักและเลือกงานแทน

ส่วนจอนมีซุกนั้นแต่งงานแล้วเธอแต่งงานกับกวักซูโฮ ภายนอกดูเหมือนว่าจอนมีซุกจะมีความสุขแต่ความจริงแล้วเธอไม่ได้มีความสุขเลย จอนมีซุกแต่งงานมาหลายปีเธอทำงานเป็นแม่บ้านและเลี้ยงลูกให้กับเขาจนไม่มีเวลาดูแลตัวเองแม้กระทั่งสามีก็ไม่ได้สนใจเธอ กวักซีโฮนั้นเป็นคนที่โลเลเขาแอบมีกิ๊กไว้นอกบ้านซึ่งคนนั้นก็เป็นคนในที่ทำงานและอยู่ใกล้ตัวจอนมีซุกมาก ตัวละครจอนมีซุกนั้นฉลาดเธอรู้ว่าสามีเปลี่ยนใจไปเป็นอื่นแล้วแต่เพื่อครอบครัวเธอยอมปิดตาข้างนึงเพื่อให้ชีวิตได้ดำเนินต่อไป แน่นอนว่าการทำแบบนี้ไม่ได้ผิดแต่อย่างใดเพราะมีหลายครอบครัวที่เป็นแบบนี้ แต่จริง ๆ แล้วเรารู้อยู่แก่ใจค่ะถึงแม้ว่าจะเป็นการประคับประคองครอบครัวแต่บาดแผลในใจมันยากที่จะฟื้นฟูสู้แยกทางกันเสียยังดีกว่า

เป็นซีรีส์แนวโรแมนติกดราม่าทั่วไปที่มีพล็อตเรื่องแบบเดิม ๆ แต่ก็ยังคงให้ความน่าสนใจอยู่ดี ซึ่งปมหลักในเรื่องนี้คือเรื่องของความรักเลยเรื่องนี้ ได้บอกถึงอุปสรรคของความรักซึ่งผู้เขียนมองว่าปมนี้เป็นปมที่ใหญ่มากเพราะได้เล่นกับจิตใจของคู่พระนางเลย ถ้าพูดง่าย ๆ เลยก็คือ เราจะต้องรู้สึกยังไงเมื่อคนที่เรามีวันไนท์สแตนด์ (One Night Stand) ด้วยและกำลังจะสานสัมพันธ์ต่อเป็นน้องชายของแฟนเก่าตัวเอง” ซึ่งปมนี้เป็นปมที่หนักหน่วงมาก ๆ ค่ะ โดยทางเรื่องจะบอกเล่าเรื่องราวในตอนแรก ๆ เพราะเมื่อเปิดฉากด้วยวันไนท์สแตนด์ (One Night Stand) แล้ว ยุนแจกุกได้พบกับฮายองอึนอีกครั้ง ซึ่งยุนแจกุกนั้นชอบฮายองอึนเป็นอย่างมากแต่ฮายองอึนไม่ชอบความสัมพันธ์แบบผูกมัด เธอเลยใช้จุดยืนของตัวเองและขีดเส้นแบ่งระหว่างกันและกัน

เคมีพระนางที่พาตรึงใจในทุกตอน

เพราะเหตุว่าเธอได้รับการสนับสนุนหลายอย่างจากประธานฮวัง ทั้งหมดนั้นเป็นเหตุให้เธอต้องเป็นแบ็กอัปให้ทั้งลูกสาวลูกชายของท่าน และมันก็คงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เธอได้เจอกับพระเอกผู้เป็นน้องชายของคนรักเก่าของเธอ

จากจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่เป็นวันไนต์สแตนด์ในค่ำคืนนั้น ฉากความใกล้ชิดชวนหวามไหวใส่มาตั้งแต่เริ่มต้นเรื่อง ฝ่ายหญิงไม่ได้จดจำ มองเป็นเพียงสิ่งผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่ฝ่ายชายกลับจดจำและตกหลุมรักเข้าอย่างเต็มเปา และความจริงในใจของฝ่ายหญิงก็มีเขาผุดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว หรือไม่ก็พยายามข่มมันไว้อยู่ ซึ่งก็อย่างที่รู้ๆ เธอจะข่มมันไว้ได้สักแค่ไหนกัน

คนทั้งคู่ต้องกลับมาเดินบนเส้นทางเดียวกันอย่างกับฟ้าตั้งใจ ความรู้สึกที่อยู่ลึกๆ ข้างในจึงมักปลดปล่อยออกมา

บางตอนอาจมีฉากใกล้ชิดมากหน่อย บางตอนก็อาจเพียงเบาๆ แต่ไม่ว่าแบบไหน ก็คงชวนให้คนดูฟินไปตามๆ กัน ซึ่งบทแบบนี้ จำเป็นยิ่งที่นักแสดงต้องมีเคมีเข้ากันแบบสุดๆ และทั้งจางกียงและซงฮเยคโย ก็ทำมันออกมาได้ดี นอกเหนือจากความสามารถทางการแสดงที่ทำให้ จางกียงกลายเป็นตากล้องสุดหล่อที่สุดเก่งผู้เจ็บแค้นต่อการตายของพี่ชาย ขณะที่ซงฮเยคโยได้รับบทของหญิงสาววัย 38 ที่เจ็บปวดกับการเลิกราโดยไม่รู้อะไรมาหลายขวบปี หันไปมุ่งมั่นกับงานและคิดว่าตัวเองไม่สนใจความรักที่จริงจังอีก จนได้มาเจอกับพระเอกที่อ่อนวัยกว่าแถมเป็นน้องชายของชายคนรักเก่า

Now, We Are Breaking Up

แน่นอนว่ายุนแจกุกไม่ได้ยอมแพ้ เข้าพยายามทุกอย่างเพื่อให้ฮายองอึนมองเห็นตัวตนของตัวเองอีกทั้งยังพยายามช่วยให้เธอพ้นจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่หลังจากนั้นไม่นานปมก็เผยออกมาเพราะฮายองอึนเป็นแฟนเก่าของยุนซูวานพี่ชายของยุนแจกุก แต่ยุนซูวานนั้นเสียชีวิตแล้วด้วยอุบัติเหตุซึ่งทางบ้านของยุนแจกุกก็เชื่อและคิดว่าอุบัติเหตุที่คร่าพี่ชายของเขาในครั้งนั้นเป็นเพราะฮายองอึน ซึ่งปมเรื่องแค่นี้ก็เจ็บปวดแล้วค่ะแต่โชคดีหน่อยที่ยุนแจกุกพยายามสืบหาความจริงและเชื่อในภายหลังว่าฮายองอึนไม่ได้เป็นต้นเหตุ

แต่เรื่องราวก็มีพีคกว่านี้ไปอีกเพราะว่ายุนแจกุกชอบฮายองอึนมาก่อนพี่ชายตัวเอง ในตอนแรกยุนแจกุกเป็นช่างภาพสมัครเล่นเขาขายรูปภาพอยู่ตามถนนและรูปภาพใบแรกของเขาก็ถูกฮายองอึนซื้อไป ยุนแจกุกชอบและประทับใจในตัวเธอมาตั้งแต่ตอนนั้นเลยฝากให้พี่ชายส่งของและฝากข้อความไปให้เธอเป็นประจำ แต่ด้วยเหตุนี้ทำให้พี่ชายของเขายุนซูวานได้รักกับฮายองอึนซะงั้น คิดดูสิคะทุกคนว่ามันบิดเบี้ยวมากแค่ไหน บิดเบี้ยวจนเราปวดใจเลยทีเดียว

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *