One Spring Night สายใยคืนใบไม้ผลิ
อีจองอิน (Han Ji Min จากซีรีส์ ‘Rooftop Prince’ และ ‘Jealousy Incarnate’) หญิงสาวอาชีพบรรณารักษ์ที่กำลังเดินมาถึงทางแยกของชีวิต เธอมี ควอนกีซอก รวมรีวิวหนัง (Kim Joon Han) แฟนที่คบกันมานานพอควรและความสัมพันธ์ก็เริ่มจะจืดจางลงไป แต่ในวันหนึ่งที่เธอไปพักที่อพาร์ตเมนต์ของเพื่อน กลับกลายเป็นวันที่เธอได้ค้นพบโลกใหม่ หนังฟรี วันที่เธอเดินเข้าไปในร้านขายยาแห่งหนึ่งในละแวกนั้น
ชายหนุ่มสุดหล่อที่เธอได้พบ เขาเป็นเภสัชกร
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนนั้น คือ ยูจีโฮ (Jung Hae In จากซีรีส์ ‘Something in the Rain’, ‘Prison ดูหนังเถื่อน Playbook’ และ ‘While You Were Sleeping’) หนังใหม่ ผู้เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกชายอยู่คนหนึ่ง ลูกชายที่อาศัยอยู่กับพ่อและแม่ของเขาเอง เว็บดูหนังไม่มีโฆษณา โดยเขาก็จะไปหาลูกเป็นประจำ แต่นั่นก็อาจเป็นเหตุผลให้ไม่มีผู้หญิงเข้ามาในชีวิต นอกเหนือจากจองอิน
ดูหนัง ทั้งสองพบเจอหน้ากันครั้งแรกต่างก็ตกหลุมรักกันในทันที แต่เรื่องมันไม่ง่ายเพราะว่าจองอินมีแฟนอยู่แล้ว และพ่อแม่ของพวกเขาต่างก็เร่งเร้าเรื่องการแต่งงาน ดูหนังออนไลน์ สถานการณ์ของการคบกันที่ไม่แน่นอนอยู่แล้ว แถมเมื่อฝ่ายหญิงกำลังเจอะเจอคนใหม่แบบนี้ ยิ่งเปราะบางเข้าไปใหญ่ พวกเขาจึงตกลงที่จะคบเป็นเพื่อนกันไปก่อน ดูหนังฟรี
ถ้าจะพูดถึงครอบครัวของจองอินนั้น เธอมีพี่สาวชื่อ อีซออิน (Lim Seong Eon) เป็นผู้ประกาศข่าวที่ต้องการจะเลิกรากับสามีผู้เป็นหมอ และมีน้องสาวชื่ออีแจอิน (Joo Min Kyung) ที่จู่ๆ ก็ลาออกจากโรงเรียนกลับมาจากเมืองนอกและแอบมาพักอาศัยอยู่กับเธอ
เรื่องราวของครอบครัวที่มีลูกสาวสามคน กับชีวิตความรักที่แตกต่างกันไปตามช่วงวัย
ดูหนัง ความรักที่เกิดบนคาบเกี่ยวระหว่างความสัมพันธ์ในปัจจุบันที่ไม่แน่ใจว่ากำลังจะจบหรือไม่ กับ ความสัมพันธ์ใหม่ที่เกิดขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัวที่เธอและเขาควรจะไปต่อหรือหยุดอยู่แค่ตรงนี้ดี ? การนำเสนอเรื่องราวที่เป็นประเด็นถกกันในสังคมที่พยายามตัดสินว่านี่เป็นการนอกใจซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด หรือเป็นการที่คนสองคนรักกันด้วยใจบริสุทธิ์ เพียงแค่เกิดในเวลาที่อาจจะไม่เหมาะสมในสายตาคนอื่น … ตัวคนสองคนเองหรือสังคมรอบข้าง ใครกันที่ตัดสินความรักครั้งนี้ ดูหนังออนไลน์
ซีรีส์เรื่องนี้เปิดตัวด้วยเรตติ้ง 3.9% และ จบลงด้วยเรตติ้งสูงถึง 9.5% ซึ่งเป็นตัวเลขเรตติ้งที่สูงที่สุดในบรรดาซีรีส์ที่ออกอากาศในช่วงเวลาเดียวกัน ว่าด้วยเรื่องราวความรักสามเส้า เริ่มต้นจาก อีจองอิน (รับบทโดย ฮันจีมิน) บรรณารักษ์สาวประจำห้องสมุดที่มีแฟนหนุ่มที่คบกันมายาวนานเป็นผู้จัดการธนาคารซึ่งมีฐานะและการงานที่มั่นคงอย่าง ควอนกีซอก (รับบทโดย คิมจุนฮัน) ทั้งคู่เป็นที่คาดหวังจากทุกคนว่าต้องลงเอยที่การแต่งงานแน่นอน แต่ความสัมพันธ์อันยาวนานที่ดูเหมือนจะมั่นคงแบบเส้นขนานมันก็ไม่ค่อยหวือหวาเอาเสียเลย จนกระทั่งวันหนึ่งความสัมพันธ์เริ่มสั่นคลอนเมื่อจองอินได้พบกับ ยูจีโฮ (รับบทโดย จองแฮอิน) เภสัชกรหนุ่มหล่อประจำร้านขายยาใกล้ห้องพักของเพื่อนสนิทจองอิน พวกเขาต่างตกหลุมรักกันในเวลาเพียงไม่นานและทำให้จองอินตัดสินใจอยากที่จะเลิกรากับกีซอก แต่ชีวิตมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก
สิ่งที่ตามมาหลังจากที่ จองอิน ต้องการยุติความสัมพันธ์กับ กีซอก ก็คือ แน่นอนกีซอกไม่ยอมเลิกอย่างเด็ดขาดเพราะยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้กับความรู้สึกที่ว่าตนเองดีกว่ายูจีโฮในทุกด้านและยังรักจองอินอยู่เต็มหัวใจ นอกจากนั้นพ่อของจองอินก็ไม่พอใจที่เธอต้องการเลิกเพราะหน้าที่การงานของพ่อของเธอขึ้นอยู่กับพ่อของกีซอกด้วย ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยูจีโฮ พ่อหนุ่มผู้แสนดีแต่เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว มีลูกชายหนึ่งคนซึ่งเคยมีภรรยาและเธอหนีไปในเวลาต่อมา สังคมที่อาจจะตัดสินว่าความรักครั้งนี้มันไม่ถูกต้อง หรืออาจจะตัดสินว่าการมีความสัมพันธ์กับคุณพ่อลูกติดมันไม่โอเครึเปล่า แล้วความรักครั้งนี้ของจองอินจะลงเอยที่กลับไปในรักที่มั่นคงแต่ไม่หวือหวาอีกต่อไป หรือ ก้าวไปหาความรักครั้งใหม่ที่ทำให้หัวใจเธอฟูฟ่องได้อีกครั้งแต่ต้องเอาชนะอุปสรรคมากมายที่เกิดขึ้น
หากต้องเปรียบเทียบผลงานซีรีส์เรื่องก่อนหน้านี้ “Something in the Rain” (JTBC,2018) กับเรื่องนี้ซึ่งถือเป็นผลงานล่าสุดของ ผู้กำกับอันพันซอก คุณผู้กำกับได้นำเอาโทนสี, มุมกล้องถ่ายภาพ, การบอกเล่าเรื่องราวและกลิ่นอายความคลาสสิคยกมาในใช้ในเรื่องนี้อีกครั้งจนกลายเป็นการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผลงานจากผู้กำกับท่านนี้ได้อย่างชัดเจน การนำเสนอด้วยโทนสีและภาพที่ให้อารมณ์สไตล์คลาสสิคแบบวินเทจ กับการดำเนินเรื่องราวและติดตามตัวละครในแบบค่อยเป็นค่อยไปเปรียบได้กับการเดินในสวนสาธารณะเพื่อพักผ่อนแต่ระหว่างเดินนั้นกลับเก็บทุกประเด็นระหว่างเส้นทางได้ครบถ้วนทุกช่วงทุกตอน แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้ได้คะแนนมากกว่าจากความเห็นส่วนตัวคือการดำเนินเรื่องราวที่มีประเด็นชี้ชวนให้ติดตามและเข้มข้นมากกว่าในเรื่องที่แล้วอยู่เยอะพอสมควร ก่อนหน้าที่จะเปิดชมเรื่องนี้ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากเพราะคิดว่าคงมีช่วงดำเนินเรื่องช้าอยู่เยอะพอสมควร แต่พอได้รับรู้เรื่องราวของความรักในเรื่องนี้แล้ว มีการวางหมากและดำเนินไปได้อย่างน่าติดตามและชวนให้ค้นหาต่อไปเรื่อยๆว่าคู่นี้จะลงเอยกันอย่างไร ถือว่าทำได้ดีเกินคาดเลย
สิ่งที่ชอบในซีรีส์เรื่องนี้โดยส่วนตัวคือการนำเอาเรื่องราวในชีวิตมนุษย์ที่ไม่ได้มีพลอตที่น่าแปลกใจอะไรมากมายแต่มันคือเรื่องราวปกติในชีวิตแล้วนำมาถ่ายทอดให้โดนใจในแบบสไตล์ของผู้กำกับท่านนี้ การบอกใบ้ถึงเรื่องราวต่างๆโดยไม่ต้องมีบทพูดโดยละเอียดแต่ใช้การแสดงสื่อสารออกมา ทั้งในประเด็นการแต่งงานเพื่อธุรกิจและหน้าตาทางสังคม, ประเด็นการมีความสัมพันธ์กับคนที่มีลูกมาก่อนแล้ว หรือจะประเด็นที่มีความรักทั้งๆที่ยังไม่ได้เลิกรากับแฟนกับเส้นบางๆของคำว่านอกใจ รวมถึงการสะท้อนภาพความเชื่อของครอบครัวเกาหลีใต้ที่ยังคงมีอยู่ในสังคมปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้หลายคนตัดสินแล้วมันไม่ถูกต้องแต่บางอย่างถ้าไม่ได้ประสบเอง อย่าเพิ่งไปตัดสินใครโดยไม่รู้ข้อมูลที่แน่ชัดน่าจะดีที่สุด
อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบจากในซีรีส์คือความรักและความสัมพันธ์อันแนบแน่นของสามสาวพี่น้องและแม่ของ อีจองอิน ขอเรียกว่าทีมผู้หญิงของครอบครัวจองอินเพื่อต่อสู้กับพ่อที่พยายามควบคุมทุกคน ด้วยความที่เรื่องราวไม่ได้ใส่ความดราม่าหนักหนามากเกินไป แถมยังมีความสัมพันธ์อันแสนดีของทีมผู้หญิงทีมนี้อีกมาทำให้รู้สึกว่าสาวๆไม่เดียวดาย ซึ่งนอกจากจะมีเรื่องจองอินที่เลิกรากับกีซอกแล้ว ยังมีเรื่องพี่สาวคนโตสุดที่โดนสามีทำร้ายและจะฟ้องหย่าแต่ต่อมาได้รู้ว่าตั้งครรภ์เธอเกือบตัดสินใจทำแท้ง ถึงแม้ทุกคนในครอบครัวจะเสียใจกับเหตุการณ์ต่างๆ แต่ทีมนี้ต่างสู้กับพ่อหัวชนฝาเพื่อให้แต่ละคนได้มีความสุขในทางที่บางคนอาจจะคิดว่าผิดแต่ทีมนี้ยินดีทำเพื่อให้ครอบครัวของเรามีความสุข นอกจาก… ปัญหาไม่ว่าจะใหญ่โตแค่ไหน ถ้าครอบครัวคอยสนับสนุนและให้กำลังใจ ก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว เพราะแต่ละคนตีความหมายความสุขของชีวิตต่างกัน เราสุขเรื่องนี้อีกคนอาจจะสุขอีกแบบก็ได้
นอกจากนั้นยังชื่นชอบการเชื่อมโยงประเด็นปัญหาจากความวุ่นวายในครอบครัวของพี่สาวคนโต อีซออิน เธอเป็นผู้ประกาศข่าวที่กำลังรุ่งในสายอาชีพแต่กลับลาออกจากตำแหน่งเพราะเธอถูกสามีทำร้ายและมีแผนกำลังจะฟ้องหย่าซึ่งเธอแต่งงานจากการคลุมถุงชนจากผู้ใหญ่ของทั้งสองครอบครัว ในระหว่างนั้นเธอได้รู้มาว่าเธอตั้งครรภ์จึงอยากจะไปทำแท้งโดยไม่บอกใครเพราะกลัวลูกไม่มีพ่อ ต่อมาเธอได้คุยกับน้องสาวคนกลาง อีจองอิน และน้องเล่าให้ฟังว่ากำลังคบกับแฟนที่มีลูกติด 1 คนและน้องเธอโอเคกับเรื่องนั้น เธอจึงตระหนักขึ้นมาได้ว่าขนาดน้องสาวที่ไม่เคยมีลูกยังพร้อมจะรับเลี้ยงเด็กได้ แต่เธอที่มีลูกของตัวเองกลับจะไปเอาออก เธอจึงรู้สึกละอายใจและตัดสินใจไม่ทำแท้งแล้ว … เรื่องราวคนละเรื่องและมุมมองที่แตกต่างกันแต่ทำให้คนหนึ่งตัดสินใจจากร้ายกลายเป็นดีได้โดยที่บางทีก็ไม่ทันได้รู้สึกตัวเลย
แต่ถ้าจะให้พูดถึงจุดด้อยของซีรีส์เรื่องนี้จากความคิดเห็นโดยส่วนตัวแล้วล่ะก็ คงจะเป็นเรื่องของความหน่วงที่ช้ามากไปในบางช่วง ทั้งนี้ทั้งนั้นพอได้เข้าใจในผลงานของคุณผู้กำกับอันพันซอกแล้วก็เลยรับรู้ได้ว่ามันคือสไตล์ส่วนตัวของการเล่าเรื่องราวในลักษณะแบบนี้ ถึงแม้จะช้าบ้างในบางช่วงบางตอนจนเอื่อยมากไปแต่ก็ดูเพลินจนจบแบบไม่มีกดข้ามแม้แต่ตอนเดียว
แม้โดยคร่าว มันจะเป็นเรื่องของชายหนุ่มเภสัชกรผู้มีลูกติด กับหญิงสาวบรรณารักษ์ที่มีแฟนอยู่แล้ว แต่โดยรวมๆ มันก็เป็นเรื่องราวของสังคม ค่านิยม ความคิดเรื่องการแต่งงานในสังคมเกาหลี ที่เล่าถึงชีวิตของหญิงสาวพี่น้องทั้งสามที่ติดอยู่ในวังวนของความรักและชีวิตคู่
ทั้งยังลามไปเล่าถึงความรุนแรงในครอบครัวอีกด้วย
สามพี่น้องในโลกของการมีคู่และการแต่งงาน
พี่สาวคนโตถูกเร่งเร้าและไม่ได้คิดให้รอบคอบนัก สุดท้าย การแต่งงานก็ดำเนินมาถึงจุดที่ใกล้จะแตกหัก สองคนเริ่มแยกกันอยู่ และหาทางออกที่จะเป็นไปได้มากที่สุดเพื่อจะหนีออกไปจากความสัมพันธ์อันอึดอัดนี้
นางเอกเป็นสาวคนกลางที่อยู่ในระหว่างทางแยกสองทาง คบคนๆ หนึ่งเป็นแฟนมาสักพักใหญ่ แต่รู้สึกว่าพอใช้เวลาคบเป็นแฟนกันนานเกินไป ความรู้สึกนั้นอาจแปรเปลี่ยน ทั้งยังรู้สึกว่าทางบ้านฝ่ายชายดูไม่ปลื้มตัวเอง ยิ่งมาเจอตัวเร่งอย่างเภสัชกรผู้แสนดีเข้าอีก ทีนี้หัวใจเธอเลยไขว้เขวหนัก
จะเดินหน้าก็ลำบากเพราะเธอยังมีแฟนอยู่ แต่จะไปขอเลิกเลยก็อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ว่าจะเลือกไหน เธอคงต้องกลายเป็นตัวเลววันยันค่ำ ก็น่าเห็นใจนางเอกมากพอดู
ที่แตกต่างออกไปชัดเจนคือ น้องสาวคนสุดท้องของพวกเธอ ที่มักทำอะไรอย่างที่ใจปรารถนา จู่ๆ ก็ลาออกมาจากโรงเรียนที่เมืองนอกกลับมาแอบอยู่กับพี่สาวคนรองแต่ไม่ยอมบอกที่บ้าน จนแม่มาจับได้ เธอเลือกจะชอบผู้ชายคนใดไม่สนใจคำแนะนำใคร แถมยังเลือกจะบอกออกไปตามตรงด้วย เป็นชีวิตที่ดูแปลกดี
One Spring Night สายใยคืนใบไม้ผลิ
เท่าที่สังเกตระหว่างดูซีรีส์เรื่องนี้ มองเห็นเอกภาพอย่างหนึ่งคือเพลงประกอบที่แทบจะแนบเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน เป็นเพลงที่ฟังเย็นๆ แต่ให้ความรู้สึกเหงาหงอยไปพร้อมๆ กัน ทั้งยังเลือกใช้เสียงกลองที่ให้ความรู้สึกเหมือนเล่นในผับ
แม้เรื่องราวจะเดินไปอย่างไม่โลดโผนนัก ทั้งการดำเนินเรื่องก็ค่อยเป็นค่อยไป แต่ด้วยเหล่านักแสดงนำอย่าง จองแฮอิน และ ฮันจีมิน รวมไปถึงน้องสาวของนางเอกที่เล่นโดย Joo Min Kyung/จูมินคยอง ก็พอมีสีสันให้ติดตามเรื่องราวไปได้อยู่
One Spring Night สายใยคืนใบไม้ผลิ
ดูเหมือนในสังคมของคนเกาหลี ชีวิตของพ่อเลี้ยงเดี่ยว แม่เลี้ยงเดี่ยว ค่อนข้างจะน่าสงสาร จากที่สังเกตเห็นในซีรีส์อย่าง ‘When the Camellia Blooms’ พวกเขาดูไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากสังคมสักเท่าไหร่ ผู้ชายก็ดูจะไม่อยากได้แม่เลี้ยงเดี่ยวมาเป็นภรรยา แม่ของฝ่ายชายก็ดูไม่อยากจะได้ลูกสะใภ้ที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวแม้เธอจะเป็นคนดีก็ตาม
พอมาเรื่องนี้ ย้ายฝั่งมาเป็นฝ่ายชายรับหน้าที่เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวบ้าง ก็ดูเหมือนจะเจอสถานการณ์ที่ไม่ต่างกัน แฟนนางเอกดูจะเป็นคนที่แสดงออกเรื่องนี้ชัดเจนกว่าคนอื่น ขณะที่นางเอกและน้องสาวของเธอค่อนข้างจะยอมรับ เห็นใจและมองว่าเขาก็คือผู้ชายปกติที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
เขาเปลี่ยนจากผู้ชายที่ร่าเริงช่างพูดช่างเจรจาไปเป็นผู้ชายนิ่งที่ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองและดูแลลูกไปวันๆ ไม่เปิดใจให้กับผู้หญิงคนใดจนวันที่จองอินเดินเข้ามาในร้าน
แต่การจะก้าวข้ามไปเป็นแฟนของจองอินไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเธอมีควอนกีซอก (Kim Joon Han จากซีรีส์ ‘Hospital Playlist’ และ ‘Prison Playbook’) เป็นแฟนอยู่แล้ว ถึงแม้จะอยู่ใน่ช่วงสุดท้ายแต่เขาก็ไม่ใช่คนที่ปล่อยเธอไปโดยง่าย ทั้งยังต้องปะทะกับแรงกระทบทางสังคมอีก
ก็คงต้องให้กำลังใจเธอไปจนสุดทางแหละนะ
เรื่องราวความสัมพันธ์ที่หลายคนในสังคมอาจจะตัดสินว่ามันผิด หรือ ใครหลายคนอาจจะคิดว่าไม่ควร กับการที่ อีจองอิน ได้พบรักแท้ของเธอในช่วงเวลาที่เธอยังมีแฟนอยู่ แต่สำหรับเธอ ยูจีโฮ คือรักแท้ที่เธอพร้อมจะก้าวต่อไปโดยไม่หวั่นแม้จะต้องเจอสิ่งใดมาขวางกั้น แล้ว ควอนกีซอก ล่ะจะทำอย่างไรในเมื่อเขาก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผิดอะไร มาลุ้นกันว่าบทสรุปของ “One Spring Night” จะจบลงที่ตรงไหนกับความรักที่แสนมั่นคงหรือกับรักแท้ที่มาเจอผิดเวลา ลองมาหาคำตอบกันดูนะ
คอซีรี่ย์แนวโรแมนติกอบอุ่นหัวใจ อย่าง One Spring Night เป็นเรื่องราวของอีจองอิน รับบทโดยฮันจีมิน ที่มีความสุขกับการทำงานและมีผู้คนรักและมีฐานะทางสังคม แต่เมื่อได้มาเจอกับ ยูจีโฮ รับบทโดยจองแฮอิน เภสัชกรหนุ่มที่มีลูกแสนน่ารัก เมื่อทั้งคู่เกิดความสัมพันธ์ตกหลุมรักกัน ทำให้เกิดเรื่องราวที่เรียกได้ว่าอมยิ้มไปตามๆกัน ใครที่มองหาซีรี่ย์หวานๆ ซาบซึ้งชวนให้น้ำตาไหลคงไม่อยากพลาดอย่างแน่นอนกับซีรี่ย์เรื่องนี้มีทั้งหมด 32 ตอน ซึ่งซีรี่ย์เรื่องนี้เป็นผลงานของกำกับ Something in the Rain ซีรี่ย์ดังที่เคยสร้างชื่อไว้เมื่อปี 2018 เรียกได้ว่าคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอนเตรียมระวังหมอนให้ดีๆ เพราะคุณจะจิกหมอนขาดแน่ๆ
