รีวิว Our Blues เวลาฟ้าสีหม่น

Our Blues เวลาฟ้าสีหม่น

Our Blues เวลาฟ้าสีหม่น

ซีรีส์ฟีลกู๊ดเยียวยาหัวใจผ่านหลากหลายเรื่องราวขมขื่นของผู้คนบนเกาะเชจู

แพ็กกระเป๋าบินตรงสู่หมู่บ้านพูรึงแห่งเกาะเชจูไปกับ รีวิวซีรีส์เกาหลี Our Blues เวลาสีฟ้าหม่น ซีรีส์ดราม่าเยียวยาหัวใจที่จะพาไปสำรวจชีวิตหวานปนขมเคล้าคลื่นลมบนเกาะที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาแห่งนี้ ผ่าน 8 เรื่องราวหลากหลายรสชาติถ่ายทอดโดยทัพนักแสดงระดับท็อปอาทิ ดูหนัง อีบยองฮอน ชินมินอา คิมอูบิน ฮันจีมิน อีจองอึน และ ชาซึงวอน แต่จะมีความน่าสนใจและต้องเตรียมตัวก่อนดูอย่างไรบ้าง

Our Blues เวลาฟ้าสีหม่น

ดูหนังออนไลน์ การถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของผู้คนบนเกาะเชจูผ่านนักแสดงมากฝีมือถึง 14 ท่าน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านอกจากเรื่องราวเยียวยาจิตใจที่นักเขียนบทโนฮีคยองฝากไว้กับเหล่าผู้ชมแล้ว ดูหนังฟรี ซีรีส์เรื่องนี้ยังคงหยิบยกเรื่องราวและมุมมองใหม่ ๆ พร้อมทั้งนำเสนอประเด็นที่น่าสนใจฝากเอาไว้หลังการรับชมอีกด้วย

เป็นซีรีส์ประเภท Omnibus มีรูปแบบการเล่าผ่านหลายเส้นเรื่อง หลายตัวละคร และหลายมุมมองรวมไว้ในเรื่องเดียว มีจุดเชื่อมโยงคือความขมขื่นของชีวิตที่ได้รับการเยียวยาจากสภาพแวดล้อมและผู้คนบนเกาะเชจูที่พร้อมใช้ความอบอุ่นปลอมประโลมจนบาดแผลแห่งความเจ็บปวดนั้นค่อย ๆ สมานจนปิดสนิท แน่นอนว่าผู้ชมจะได้สัมผัสเรื่องราวชีวิตที่แตกต่างกันไปตลอด 20 ตอนแบบครบทุกรสชาติ

เรื่องราวทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็น 8 เส้นเรื่องใหญ่ ที่โคจรอยู่ภายใต้จักรวาลเดียวกัน เหล่าตัวละครมากหน้าหลายตาจะสลับสับเปลี่ยน ทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตในพาร์ทของตน โดยเนื้อเรื่องแบ่งออกได้ดังนี้

Our Blues เวลาฟ้าสีหม่น

อึนฮี (รับบทโดย อีจองอึน) และฮันซู (รับบทโดย ชาซึงวอน) รักแรกตลอดกาล ความทรงจำที่สวยงามตลอดไป (?)

ยองอ๊ก (รับบทโดย ฮันจีมิน) และจองจุน (รับบทโดย คิมอูบิน) กัปตันเรืออัธยาศัยดีกับแฮนยอคนใหม่ หญิงสาวที่ซ่อนความลับบางอย่างไว้

ยองจู (รับบทโดย โนยุนซอ) และฮยอน (รับบทโดย แบฮยอนซอง) โรมิโอ-จูเลียตแห่งหมู่บ้านพูรึง ความรักและข่าวคราวที่คาดไม่ถึง

ดงซอก (รับบทโดย อีบยองฮยอน) และซอนอา (รับบท โดยชินมินอา) ร่องรอยการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยบาดแผล ความสัมพันธ์ที่จะมาช่วยเยียวยาจิตใจ

อินกวอน (รับบทโดย พัคจีฮวาน) และโฮชิก (รับบทโดย ชเวยองจุน) อดีตเพื่อนรักที่ผันตัวมาเป็นคู่อริแบบเต็มตัว

มีรัน (รับบทโดย ออมจองฮวา) และอึนฮี นิยามของคำว่า “เพื่อนรักภักดี” เมื่อมิตรภาพที่ตั้งอยู่เริ่มสั่นคลอน

ชุนฮี (รับบทโดย โกดูชิม) และอึนกี (รับบทโดย กีโซยู) คุณย่าผู้สิ้นหวังในโชคชะตากับหลานสาวตัวน้อยที่เฝ้ารอคอยคำอธิษฐาน

อ๊กดง (รับบทโดย คิมฮเยจา) และดงซอก ความสัมพันธ์ไม่เผาผีของสองแม่ลูก คำขอสุดท้ายและการเดินทางครั้งสำคัญ

Our Blues เวลาฟ้าสีหม่น

ตัวเอกในชีวิตของเราไม่ใช่ใครอื่นไกล แต่เป็น”ตัวเรา”

ตัวเอก คือบุคคลสำคัญอันเป็นจุดศูนย์กลางในการเล่าเรื่อง แน่นอนว่าเขาหรือเธอคนนั้นถูกมอบหมายให้เป็นผู้เล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ ปมปัญหาต่าง ๆ ถูกผูกเอาไว้โดยยึดจากเส้นเรื่องของตัวเอกเป็นหลัก แล้วจึงค่อย ๆ เผยให้เห็นเส้นเรื่องของผู้คนรอบข้าง แน่นอนว่านั่นคือหนึ่งในศิลปะการถ่ายทอด แต่โปรเจ็กต์ซีรีส์ครั้งนี้ของนักเขียนโนฮีคยอง ถูกถ่ายทอดออกมาแตกต่างจากรูปแบบที่เรามักจะคุ้นชิน การใช้ตัวละครดำเนินเรื่องแบบพระ – นาง ดูจะไม่ใช่จุดประสงค์ของการเล่าเรื่องในครั้งนี้สักเท่าไหร่ โครงเรื่องจึงถูกจัดวางให้ได้ลองลิ้มชิมรส แบ่งพาร์ทความหวานและขมของรสชาติชีวิตผ่านเส้นเรื่องถึง 8 เรื่องในคราวเดียวกัน ตัวละครหลักที่โคจรไปมาล้วนเป็นตัวเอกในเรื่องราวชีวิตของตนเอง เหตุที่นักเขียนโนฮีคยองวางรูปแบบการเล่าไว้เช่นนี้ เพราะเธอเชื่อว่าเราทุกคนล้วนมีเรื่องราวที่อยากบอกเล่า ในโรงละครชีวิตที่มีเราเป็นทั้งผู้กำกับและนักแสดง ตัวเอกในเรื่องราวเหล่านั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากตัวเราเอง ดังนั้นซีรีส์ Our Blues จึงแต่งแต้มสีสันให้กับทุก ๆ ตัวละคร และพาเราไปสัมผัสพร้อมกับทำความเข้าใจเขาเหล่านั้น จนทำให้ตัวละครมากหน้าหลายตาเข้ามามีพื้นที่ในหัวใจของเหล่าคนดูได้อย่างง่ายดาย

นอกจากเส้นเรื่องที่ช่วยฉายสปอตไลท์ให้ตัวละครทุกท่าน สิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างคือการเปิดพื้นที่ให้นักแสดงคนพิการ ได้มีส่วนร่วมในงานแสดงและมีโอกาสโชว์ศักยภาพอีกด้วย การที่ตัวซีรีส์พาเราไปเข้าใจโลกของคนพิการมากขึ้น บอกเล่าถึงสิ่งที่ผู้คนรอบข้างเผชิญ และทำให้เรียนรู้ในมุมมองที่เปิดกว้างขึ้น ถือว่าเป็นอีกก้าวสำคัญและเป็นการช่วยผลักดันอุตสาหกรรมบันเทิงให้มีพื้นที่สำหรับนักแสดงหลาย ๆ ท่านบนโลกที่เต็มไปด้วยความหลายหลากเช่นนี้

Our Blues เวลาฟ้าสีหม่น

เรามักจะเห็นเรื่องราวของผู้ที่เผชิญกับโรคซึมเศร้าถูกหยิบยกออกมาบอกเล่าอยู่บ่อยครั้ง เช่นเดียวกับการดำเนินเรื่องในซีรีส์เรื่องนี้เช่นกัน ประเด็นเรื่องโรคซึมเศร้ายังคงเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ซีรีส์ Our Blues ต้องการถ่ายทอดให้ผู้ชมได้เรียนรู้ แน่นอนว่าอาการเจ็บป่วยภายในอาจเป็นเรื่องที่เห็นภาพได้ยากและต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ และแบบนั้นเองการถ่ายทอดเรื่องราวของผู้ที่เผชิญกับโรคซึมเศร้าในซีรีส์เรื่องนี้ จึงถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพแทนความรู้สึกของผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ชมได้มองเห็นและเข้าใจสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการสื่อออกมามากขึ้น

เสน่ห์งานเขียนของนักเขียนบทโนฮีคยอง คือการหยิบยกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันออกมาเล่าและตีความในมุมมองที่เข้าใจได้ง่าย การดำเนินเรื่องที่ไม่ซับซ้อน ย่อมทำให้เหล่าคนดูสามารถทำความเข้าใจสถานการณ์ของเหล่าตัวละครได้กลาย ๆ ถึงแม้เราจะไม่ได้เจอกับเหตุการณ์นั้นโดยตรงก็ตาม ในผลงานครั้งนี้ก็เช่นกัน โจทย์ชีวิตที่ไกลตัวของสักคนอาจเป็นเรื่องราวใกล้ตัวของเพื่อนสนิท หรือใครสักคนในชีวิตเราก็เป็นได้ ทางออกของปัญหาหรือวิธีการเผชิญหน้ากับมันจึงเป็นเรื่องที่เราเองก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าสิ่งไหนถูกหรือผิด เพราะปัจจัยในชีวิตของเพื่อนมนุษย์แต่ละคนย่อมแตกต่างกัน การเรียนรู้ข้อแตกต่างและโอบกอดความหลายหลากเหล่านั้น อาจจะเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่ช่วยส่งต่อให้ในวันที่พายุพัดผ่านเข้ามาในชีวิต

หากพูดถึงเชจูขึ้นมาแล้ว เชื่อว่าสิ่งที่หลาย ๆ คนนึกถึงคงจะเป็นทะเลสีครามไกลสุดลูกหูลูกตา ภาพที่เห็นถัดมาคงเป็นโขดหินสีดำที่ถูกน้ำกัดเซาะ แสงแดดอ่อน ๆ พร้อมประภาคารสีแดงตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลังเป็นแน่ แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเชจูในซีรีส์ Our Blues เท่านั้น เพราะเกาะเชจูในครั้งนี้ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านวิถีชีวิตของผู้คน ผ่านเรื่องราวชีวิตประจำวันของคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ อาชีพ สถานที่ ผู้ที่เกิดและใช้ชีวิตมากับทะเล เราจึงได้เห็นมุมมองชีวิต ผ่านตัวละครหลายช่วงอายุ และซึมซับบรรยากาศเหล่านั้นไปพร้อม ๆ กับได้รับการปลอบโยนจากคลื่นลมพายุที่พัดผ่านเข้ามาอีกด้วย

อาชีพที่เราเห็นบ่อย ๆ ในซีรีส์คือ แฮนยอ (แฮ – นยอ) นั่นเอง แฮนยอคือชื่อเรียกของกลุ่มนักประดาน้ำหญิงที่ประกอบอาชีพจับสัตว์น้ำบนเกาะเชจู เหล่าคุณป้าที่แข็งแรง (และแข็งแกร่ง) จะรวมตัวกันกันเป็นกลุ่ม พร้อมร่วมหัวจมท้ายแหวกว่ายไปในทะเลวันละ 7 – 8 ชั่วโมง โดยอาชีพนี้ถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพสำคัญบนเกาะเชจูเลยก็ว่าได้

เล่าถึงประวัติความเป็นมากันบ้าง แฮนยอเป็นอาชีพเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยโชซอน ในยุคที่ผู้หญิงจำนวนมากถูกจำกัดสิทธิและบทบาททางสังคม แฮนยอเป็นหนึ่งในอาชีพที่ช่วยผลักดันบทบาทของผู้หญิง และช่วยทลายกำแพงบทบาททางเพศในสมัยก่อน ทำให้ผู้หญิงสามารถประกอบอาชีพและหาเลี้ยงตนได้ อีกทั้งยังเป็นเป็นอาชีพที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจชุมชน ตลอดจนเศรษฐกิจระดับประเทศอีกด้วย

Our Blues เวลาฟ้าสีหม่น

แล้วการใส่บทบาทแฮนยอลงมาในซีรีส์มีอิทธิพลอย่างไร ถึงขนาดเป็นหนึ่งใน Soft Power ล่ะ

จริงอยู่ที่แฮนยอเป็นอาชีพที่สำคัญในเชจู และได้รับการแต่งตั้งจากองค์การ UNESCO ในปี 2016 ให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ แต่ปัจจุบันจำนวนผู้ประกอบอาชีพแฮนยอลดน้อยลงอย่างมาก เนื่องจากเป็นอาชีพที่ต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญ รวมไปถึงการฝึกทักษะต่าง ๆ ก็เริ่มตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ผู้คนออกไปหางานบนฝั่งมากขึ้นทำให้จำนวนแฮนยอลดลงอย่างเห็นได้ชัด กลายเป็นความกังวลของทางภาครัฐที่กลัวจะอาชีพนี้จะสูญหายไป จะเห็นว่าตัวซีรีส์ได้ใส่เรื่องราวส่วนนี้ลงมาด้วย โดยเผยให้เห็นการรับสาวต่างถิ่นอย่าง ยองอ๊ก (รับบทโดย ฮันจีมิน) เข้ามาเป็นแฮนยอรุ่นใหม่ พร้อมกับแสดงความเห็นของแฮนยอรุ่นคุณป้า ดังคำพูดของน้าฮเยจา (รับบทโดย พัคจีอาที่เราต้องรับคนจากฝั่งเข้ามา นั่นเป็นเพราะเรากลัวว่ามรดกภูมิปัญญาแฮนยอจะไม่มีผู้สืบทอด เราต้องมีแฮนยอรุ่นใหม่มาสานต่อ สำนักงานจังหวัดเชจูก็แนะนำมาอีกด้วย”

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทางภาครัฐดำเนินการสร้างโรงเรียนสำหรับแฮนยอ (Jeju Hansupul Haenyeo School ) ให้ผู้คนที่สนใจในอาชีพนี้ได้ทำความรู้จักและเรียนรู้การประกอบอาชีพนักประดาน้ำสุดแกร่งแห่งเชจู ข้อดีคือเป็นอาชีพที่สามารถทำได้ถึงแม้อายุจะ 80 แถมแฮนยอยังไม่ใช่อาชีพที่จำกัดให้คนในท้องถิ่นทำได้อย่างเดียว ผู้คนจากเมืองอื่น หรือแม้แต่ชาวต่างชาติที่มีความสนใจในอาชีพนี้ ต่างสามารถสมัครเข้าในโรงเรียนได้ เห็นแบบนี้แล้วกลยุทธ์การใช้สื่อบันเทิงควบคู่ไปกับการสะท้อนให้เห็นถึงวิถีความเป็นไปในสังคม ดูท่าจะเป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย

เรื่องราวตลอดทั้งเรื่องมันเต็มอิ่มมาก

ต้องขอชื่นชมการร้อยเรียงเรื่องราวของนักเขียนบทโนฮีคยอง ที่บอกเล่าเรื่องราวได้กลมกล่อมตลอด 20 ตอน จัดมาให้ทั้งอารมณ์สุข เศร้า และแง่คิดชีวิตที่สวยงามและตราตรึงใจ การร่วมงานกับผู้กำกับคิมคยูแท ผู้กำกับคนเก่งที่เคยฝากผลงานร่วมกันมาในซีรีส์ That Winter, The Wind Blows (2013), It’s Okay, That’s Love (2014) และ Live (2018) ยิ่งเป็นการการันตีทีมเวิร์คที่น่าชื่นชม เชจูที่ไม่ได้มีแค่ทะเลแต่เต็มไปด้วยเรื่องราวของผู้คน ช่วงเวลาสีฟ้าหม่นที่ทำให้เราได้เรียนรู้บทเรียนแห่งชีวิต ถึงแม้คลื่นลมจะพัดผ่านเข้ามาจนทำให้เราท้อใจ แต่ไม่มีพายุลูกไหนอยู่กับเราไปตลอดกาล

มีอยู่ภารกิจหนึ่งที่เราห้ามลืมเด็ดขาด คือเราไม่ได้เกิดมาบนโลกนี้เพื่อทุกข์ทรมาน แต่เพื่อมีความสุขต่างหาก”

พูดได้เต็มปากว่าครบครันทั้งโปรดักชันที่ยิ่งใหญ่ พาไปสัมผัสความงดงามของท้องทะเลเกาะเชจูแบบพาโนรามา ความมีชีวิตชีวาของ ตลาดซอบซอบห้าวัน  หมู่บ้านพูรึง ความวุ่นวายของการจราจรจากถนนหนทางที่คับแคบ เต็มอิ่มไปกับเรื่องราวจากทีมสร้างมือรางวัลและทัพนักแสดงเบอร์ต้นของวงการ ใครกำลังมองหาซีรีส์ที่พาไปสำรวจชีวิตและปิดท้ายด้วยรอยยิ้มจากการเยียวยาหัวใจ บอกได้เลยว่าเรื่องนี้ตอบโจทย์ไม่มีคำว่าผิดหวัง

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *