รีวิวหนัง Love & Death

รีวิวหนัง Love & Death

ความรัก ศรัทธา ฆาตกรรม รีวิวหนัง Love & Death ลิมิเต็ดซีรี่ส์ ความยาว 7 ตอนจบจาก HBO ที่จะพาทุกคนไปขุดคุ้ยคดีสุดอื้อฉาว netflixแนะนำ

เรื่องราวที่สร้างจากเรื่องจริง ที่เมือง WYLIE,TAXAS ปี 1980 เมื่อแม่บ้านสาว Betty Gore ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมด้วยการถูกขวานจามกว่า 40 ครั้ง โดยผู้ต้องสงสัยก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล Candy Montgomery เพื่อนบ้านคนสนิทที่มีสัมพันธ์ความสวาทกับ Allan Gore สามีของเหยื่อสาว โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในย่านคนเมืองอันแสนสงบสุข เชื่อมั่นในศาสนาแต่กลับมีความชั่วร้ายอยู่ใต้ชายคา หนังชนโรง

รีวิวหนัง Love & Death

รีวิวหนัง Love & Death เหตุการณ์ที่นำพาไปสู่ฆาตกรรม

หญิงสาวผู้เป็นภรรยาที่ดี มีครอบครัวที่มีความสุข สามีรักเธอและมีรายได้เพียงพอสำหรับการเลี้ยงดูลูก แต่เธอกลับมีความลับที่บอกใครไม่ได้ และความลับนั้นอาจจะร้ายแรงจนทำลายครอบครัวของเธอและเพื่อนของเธอได้เลยทีเดียว 

คดีที่ขัดแย้งกันของ Candy Montgomery ซึ่งถูกพิจารณาคดีในยุค 80 ในข้อหาฆาตกรรม Betty Gore Montgomery เคยเป็น แม่บ้านชาวเท็กซัสที่รู้จักกอร์ผ่านโบสถ์เมธอดิสต์ในท้องถิ่น

เธอและอัลลัน กอร์มีความสัมพันธ์กันตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2521 ถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2522 หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ยังคงเป็นเพื่อนกัน

ในวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2523 อัลลันตระหนักว่าเขาไม่สามารถติดต่อภรรยาได้ทั้งวันในขณะที่เขา เดินทางไปทำธุรกิจ เพื่อนบ้านพบร่างของเบ็ตตีและขวานยาวสามฟุต

หลังจากที่อัลลันขอให้พวกเขาตรวจสอบเธอ มอนต์โกเมอรี่ถูกจับกุมในอีกสองสัปดาห์ต่อมา เนื่องจากเธอเป็นคนสุดท้ายที่ได้พบเบ็ตตีในเช้าวันนั้น และพบลายนิ้วมือของเธอในที่เกิดเหตุ จากการสืบสวนพบว่าเบ็ตตี้ถูกขวานฟันมาแล้ว 41 ครั้ง

รีวิวหนัง Love & Death

ระหว่างการพิจารณาคดี มอนต์โกเมอรี่อ้างว่ากอร์ได้เผชิญหน้ากับเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเธอไปเยี่ยมเช้าวันนั้นเพื่อซื้อของ เธอให้การว่ากอร์ขู่เธอด้วยขวานและพยายามฟาดที่ศีรษะของเธอ ทำให้ทั้งสองทะเลาะกัน

กอร์ถูกกล่าวหาว่าแกล้งมอนต์โกเมอรี่ขณะที่พวกเขาทะเลาะกัน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นต้นเหตุของบางอย่างในตัวแม่บ้าน “ฉันไม่คิดเลย” มอนต์โกเมอรี่ เป็นพยานปากเอก “ฉันไม่ได้คิดเลย ฉันยกมันขึ้นและตีเธอ และฉันตบเธอ และฉันตบเธอ และฉันตบเธอ”

ทนายความของเธอแย้งว่าเธอทำไปเพื่อป้องกันตัว แต่ส่วนที่แปลกประหลาดที่สุดของการพิจารณาคดีเกิดขึ้นเมื่อจิตแพทย์คนหนึ่งอ้างว่าการที่กอร์ปฏิเสธเธอไปกระตุ้นให้มอนต์โกเมอรี่มีความทรงจำที่ไม่สบายใจ ทำให้เธอต้องกระทำการชั่วร้าย มอนโกเมอรี่ถูกตัดสินว่าไม่มีความผิด

ซีรี่ส์จากผู้กำกับมือทอง

เบื้องหลังความน่าดูของซีรีส์เรื่องนี้ เชื่อว่าถ้าทุกคนได้ยินชื่อของผู้สร้างก็คงไม่แปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะคนคนนั้นคือ David E. Kelley ผู้เป็นเจ้าของผลงาน Crime-drama แนวสืบสวนสอบสวนที่เปี่ยมคุณภาพอย่าง Big Little Lies และ The Undoing ของ HBO กับ Nine Perfect Strangers ของ Hulu ที่ครั้งนี้มาหยิบจับเรื่องจริงและนำเสนอในยุคพีเรียดบ้าง

David E. Kelley สุดยอดโชว์รันเนอร์ เจ้าของ 8รางวัล Emmy Award จากซีรี่ส์ Big Little Lies และ The Undoing คว้าหนังสือดัดแปลงเรื่องราวจากหนังสือขายดี เรื่อง Evidence of Love ที่บันทึกทุกแง่มุมของคดีนี้ไว้อย่างละเอียด มาสรร้างสรรค์เป็นลิมิเต็ดซีรี่ส์ ผ่านฝีมือการกำกับ Lesli Linka Glatter ผู้กำกับซีรี่ส์ฝีมือทอง

รีวิวหนัง Love & Death

และอีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ (จะ Mention ชื่อบ่อยในในบทความนี้) คือ Lesli Linka Glatter ที่เป็นผู้กำกับหลักของมินิซีรีส์เรื่องนี้ เธอกำกับไป 5 ใน 7 อีพี และหากสงสัยว่าเป็นใคร ทำไมการร่วมงานครั้งนี้กับ David ถึงน่าตื่นเต้น

ก็เพราะว่าเธอคนนี้เป็นผู้กำกับซีรีส์ระดับเซียนที่มีผลงานตั้งแต่ Homeland, The Newsroom, The Walking Dead, Mad Men และอีกมากมายที่เมื่อรวมกันแล้วการันตีว่า เรื่องการแสดงออกของตัวละคร จังหวะและสไตล์การนำเสนอ บทสนทนา กับองค์ประกอบของความพีเรียด

เนื่องจากตัวเองเป็น ‘โชว์รันเนอร์ประเภทกำกับ’ ในขณะที่ David E. Kelley เป็น ‘โชว์รันเนอร์ประเภทเขียนบท’ การมาเจอกันของทั้งสองบนโรงละคร HBO จึงเป็นการส่งสัญญาณเบื้องต้นว่า จับตาดูซีรีส์เรื่องนี้ให้ดี ๆ

เทคนิคจากผู้สร้าง

เทคนิคที่ผู้สร้างและผู้กำกับใช้คือถ่ายฉากร้องเพลงในโบสถ์ร่วมกันก่อน เพื่อให้นักแสดงทำความรู้จัก คุ้นเคย และคุ้นชินกันในเบื้องต้น หรือเริ่มสร้างโลกที่ให้ความรู้สึกเพอร์เฟกต์จากตรงนี้ ก่อนจะกระจายไปเล่าว่าชาวเมือง Wylie คนหนึ่งที่ดูสุดแสนจะเพอร์เฟกต์ 

ใช้ชีวิตตามระเบียบหรือค่านิยมสมัยนั้นทุกอย่าง แต่งงานในวัย 20 มีลูก มีบ้าน มีครอบครัวที่ดูอบอุ่น ทำอาหารแสนอร่อยน่ากิน ชีวิตดูเติมเต็มแล้ว แต่ทำไมถึงยังมีรูใหญ่ ๆ ในหัวใจที่ยังเติมเต็มไม่ได้อีก และสิ่งที่เธอเลือกทำทั้งหมดก็เพื่อเติมเต็มรูที่ว่านี้

รีวิวหนัง Love & Death

และสิ่งที่ทำให้น่าสนใจ ก็คือการเลือกฉีกไปจากต้นฉบับในเชิงโปรดักชัน หรือเลือกที่จะไม่เดินตามซีรีส์ Candy ที่ออนแอร์ไปก่อน กับเมินลุคจริงของ Candy Montgomery แต่เน้นไปที่การตีความในแบบของตัวเอง แน่นอนว่าทั้งสองคนเลือกที่จะไม่ดูซีรีส์ Candy

แต่ก็กล้าพอสมควรที่ตัดสินใจเปลี่ยนลุคของ Candy ตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผมไม่ให้เหมือนตัวจริง และทั้งหมดก็เพื่อการตีความให้เหมาะกับเนื้อเรื่องที่สุดตามความเห็นของทั้งสองคนที่มีต่อบุคคลและเหตุการณ์นี้ 

แต่ถึงอย่างนั้น หลาย ๆ อย่างก็มีการเนรมิตจนแทบจะเป๊ะกับภาพในข่าว อย่างเช่นพร็อปในฉากห้องซักรีดที่ Betty Gore ถูกสังหาร ซีรีส์ก๊อบปี้อย่างลงรายละเอียดจากคำให้การของ Candy เพื่อให้ตรงนี้สมจริงที่สุด ไหนจะลิสต์ทำ / ไม่ทำที่ Candy กับ Allan ทำขึ้นมาจริง ๆ เพื่อขีดเส้นความสัมพันธ์ของทั้งสองให้เป็น FWB อย่างมืออาชีพที่สุด

ส่วนโลเคชันก็เลือกถ่ายที่เมืองเล็ก ๆ อย่าง Austin ในรัฐเดียวกัน เพราะที่นั่นค่อนข้างให้ไวบ์ยุค 70 ของเมือง Wylie ในขณะที่เมืองจริง ๆ ขยายขนาดจนแทบจำไม่ได้แล้ว

นักแสดงหลักที่เป็นหัวใจหลัก

Elizabeth Olsen เป็นชอยส์ที่น่าสนใจ ก่อนเป็นเหตุผลของผู้สร้างกับผู้กำกับ ขอแสดงความเห็นสักนิดก่อนว่า การที่นักแสดงคนนี้แจ้งเกิดใน Martha Marcy May Marlene หนังเรื่องแรกเมื่อปี 2011 น่าจะเป็นเหตุผลเพียงพอครับว่าก่อนมารับบทเป็นแม่มดแดงใน MCU เธอเคยยอดเยี่ยมแค่ไหน Elizabeth ในเรื่องนี้เล่นเป็นคนมีปัญหาทางจิต มีความทรงจำเลวร้าย เจ็บปวดทางใจ และหวาดระแวง หลังจากหนีออกมาจากลัทธิประหลาด

ทั้งสองคนให้เหตุผลที่เลือก Elizabeth Olsen ว่า เธอเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมในการรับบทตัวละครที่มีเงื่อนไขของความเป็นมนุษย์ละเอียดและซับซ้อน และเป็นนักแสดงที่ดึงคนดูให้มาเห็นภาพที่อยู่ด้านหลังของดวงตาตัวละคร Candy Montgomery ได้

หนังชนโรง

หลังจาก Elizabeth อ่านบท เธอก็สนใจทันที และพบว่าบทนี้คือการสำรวจเลเยอร์ที่ซับซ้อนของตัวละครหญิง เป็นตัวอย่างของคนที่ขับเคลื่อนการตัดสินใจด้วยแรงกระตุ้นบางอย่าง ซึ่งสิ่งที่สำคัญคือเธอเป็นคนตัดสินคน ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับคนคนนั้น นั่นทำให้เธอเปิดใจและทำความเข้าใจตัวละครกับการแสดงได้อย่างลึกซึ้ง จากข้างในสู่ข้างนอก

รีวิวหนัง Love & Death จุดที่ชื่นชมซีรี่ส์ Love & Death

เรื่องราวทั้งหมดนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วเล่าจาก Point of View ของ Candy Montgomery ซึ่งเป็นความตั้งใจของผู้สร้างและผู้กำกับแต่แรกอยู่แล้ว เนื่องจากเราไม่เคยได้รู้มุมมองของ Betty เพราะเธอไม่ได้มีชีวิตอยู่ให้เล่า 

หรือยังไงก็ไม่ได้มีทางรับรู้เรื่องราวแบบหนัง Rashomon ที่มีผีมาเล่าเรื่องที่ตัวเองถูกฆ่า และนอกจากนี้ ยังไม่ได้นำเสนอตัวละคร Betty ผู้เป็นเหยื่อในแง่ว่าเธอสมควรเจอกับอะไรแบบนี้ แต่ยังขยายมิติตัวละครด้วยการใส่ความซับซ้อนเข้าไปหลังจากอ่านเจอว่าเธอใช้ชีวิตสนุกสนานจนกระทั่งแต่งงานตอนอายุประมาณ 19 ซึ่งผู้กำกับ Lesli วิเคราะห์ว่า มีโอกาสที่เธอจะเป็นไบโพลาร์จากเรื่องนี้

หนังชนโรง

อีกเรื่องที่อยากพูดถึง คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้ออกมาดูพอเหมาะพอดี คือการเป็น Limited Series ที่ไม่ยาวหรือไม่สั้นเกินไป 7 ตอนกำลังดี สำหรับผู้สร้างและผู้กำกับ ทั้งสองมองว่านี่เป็นเหมือนหนังยาว 3 เรื่องที่มีแนวทางแตกต่างกัน ปนตลกอ่อน ๆ บ้าง โรแมนติกบ้าง ดราม่า Courtroom บ้าง ซึ่งการเป็นมินิซีรีส์ทำให้เรื่องราวนี้มีต้น กลาง ปลาย ค่อนข้างชัด โดยมีเรื่องราวซอยยิบย่อยเป็นเหมือนบทหนึ่งในนวนิยายอีกด้วย

ซีรี่ส์ลิมิเต็ดที่ไม่ควรพลาด

ทั้งหมดเป็นการพูดถึง ‘ระบบ’ ตั้งแต่ใหญ่ลงไปย่อยอย่างมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ตั้งแต่แนวคิด ระบบสังคม อุดมคติของการใช้ชีวิตและชีวิตครอบครัว ปัจจัยหล่อหลอมแต่ละบุคคลอย่างน่าตั้งคำถาม ไปจนถึงเรื่องของคำพูดกับความจริงด้วย

หนังชนโรง

มินิซีรีส์ Love & Death ทั้ง 7 อีพีดูได้ที่ HBO คาดว่าหลายคนดูจบแล้วจะอยากดูเรื่องอื่นของผู้สร้าง David E. Kelley อีก และน่าจะเห็นตรงกันว่า อยากเห็น Elizabeth Olsen รับบทที่หลากหลายมากขึ้น เพราะจากการแสดงในเรื่องนี้ ถือว่ามีลุ้นรางวัลบนเวทีลูกโลกทองคำกับ Emmy Awards สูงเลยทีเดียว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *