หลายคนอาจจะเริ่มเบื่อกับหนังผีแบบพล็อตไทย ๆ แล้ว วันนี้เราจะพามาดูหนังผีของเพื่อนบ้านเรา กับเรื่อง The Only Mom มาร-ดา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่แม้จะทำหนังผีน้อย แต่บทจะทำก็น่ากลัวไม่ใช่น้อย
เป็นหนังผีอีกเรื่องหนึ่งของเมียนมาร์ที่ได้รับการชื่นชมแบบรายได้ถล่มทลายจากคนดูทั้งในและต่างประเทศมากที่สุด และยังได้ผู้กำกับของไทยมาช่วยด้วย หากอยากรู้ว่าเรื่องราวจะน่าติดตามแค่ไหนก็อ่านรีวิวนี้กันก่อนได้นะคะ
หนังพม่าเรื่องที่ 2 ของผู้กำกับไทย ชาติชาย เกษนัส ได้สร้างปรากฎการณ์โรงแตกที่บ้านเกิดมาแล้วด้วยองค์ประกอบที่ถึงพร้อมทั้งงานโปรดักชั่นและคุณค่าทางศิลปะที่น่าจะเหนือกว่าหนังท้องถิ่นเรื่องอื่นก็ไม่ยากเลยที่หนังจะเป็นที่นิยม
แต่อีกจุดหนึ่งที่ปฏิเสธมิได้เลยคือบรรยากาศสยองๆที่เคล้ากับอารมณ์ร่วมจากความไม่สงบทางการเมืองที่ชาวพม่าทุกคนสัมผัสได้ก็น่าจะเป็นการกลับไปย้อนมองประวัติศาสตร์ชาติพม่าอันน่าสนใจหลายประการ
The Only Mom มาร-ดา เรื่องย่อ
รีวิวหนังชนโรง ว่าด้วยความสัมพันธ์ของครอบครัว พ่อ แม่และลูกสาว พ่อมีอาชีพเป็นช่างถ่ายภาพ ส่วนแม่เป็นแม่บ้าน ครอบครัวนี้จำเป็นจะต้องย้ายบ้านเพื่อไปอยู่ใกล้ที่ทำงานของพ่อ ลักษณะของบ้านเป็นไม้บ้านเก่า สิ่งของเครื่องใช้แบบเดิม ๆ ยังอยู่ในบ้านครบ รูปภาพแบบเก่าแขวนอยู่เต็มผนัง แถมยังมีภาพถ่ายแบบกระจกเก็บไว้เป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่ถูกใจของพ่อที่มีอาชีพเป็นช่างภาพอย่างมาก
เมื่อย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่จากเดิมที่ ศิริ ลูกสาวที่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกับพ่อมากกว่าแม่ แต่เมื่อเธอกลับมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ศิริพูดคุยกับ ธิดา เพื่อนวัยเดียวกันที่พบเจอในบ้านใหม่นี้ ซึ่งเด็กทั้งสอง มีสนมกันอย่างรวดเร็ว และที่สำคัญทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ไม่ดีกับแม่ตนเองเช่นกัน ดูหนังออนไลน์ 4k
นานวันเข้า ศิริ มีอาการผิดปกติไป มีความสนิทสนมกับแม่มากกว่าพ่อ และไม่ชอบพ่อเอามาก ๆ ซึ่งเหมือนกับว่านี่ไม่ใช่ลูกสาวของเขา เขาต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวของเขา
ผงลานฝีมือทีมงานไทย
ภาพยนตร์ที่กำกับฯ โดย “ชาติชาย เกษนัส” นักทำหนังชาวไทย ซึ่งรับหน้าที่ดูแลงานหลังการถ่ายทำของหนังเมนสตรีม-อินดี้ไทย หนังนานาชาติ เรื่อยไปจนถึงหนังชิงรางวัลออสการ์ การเป็น “ผู้กำกับภาพยนตร์” ที่ได้กล่องไปพอสมควร และโกยรายได้ไปไม่น้อย จากกลยุทธ์การทำหนังเพื่อผู้บริโภค “สองตลาด”
ได้แก่ ตลาดในเมียนมา (สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์และบ้านเกิดของนักแสดงนำ) กับตลาดในไทย (บ้านเกิดของผู้กำกับฯ และแหล่งทำมาหากินของประชากรเมียนมาจำนวนไม่น้อย) ดูหนัง4k
“มาร-ดา” หนังยาวลำดับที่สองของชาติชาย เล่าเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวสามชีวิตในเมืองใหญ่ อันประกอบด้วย พ่อผู้เป็นช่างภาพ-นักหนังสือพิมพ์ แม่ผู้เป็นแม่บ้าน และลูกสาววัยไม่น่าจะถึง 10 ขวบ ที่มีบุคลิกแปลกแยกจากเพื่อนๆ และมีความเหินห่างหมางเมินกับแม่ของตนเอง หนังใหม่4k
กล่าวได้ว่าชาติชายนั้นหลงใหลกับการเชื่อมต่อร้อยเรียง “กระบวนการ/วิธีวิทยา” ในเรื่องเล่าของตนเอง กระทั่งนี่กลายเป็นองค์ประกอบอันโดดเด่นกลบทับปัจจัยเรื่องการแสดงหรือการจัดวางไคลแม็กซ์/บทสรุปในหนังเสียด้วยซ้ำไป
ความเป็นแม่
มาถึงธีมหลักที่หนังพูดถึง ในส่วนนี้คงต้องชมทีมเขียนบทชาวพม่านั่นแหละที่สามารถผูกโยงเรื่องราวผีหลอกวิญญาณหลอน 2 ช่วงเวลาให้สะท้อนกันไปมาได้อย่างเปี่ยมความหมาย เพราะในขณะที่เรื่องราวของครอบครัวยุคใหม่ของ อองและเมย์
จะพูดถึงพลวัตทางสังคมในยุคทุนนิยมของพม่าในปัจจุบันที่บีบให้ครอบครัวต้องทำทุกอย่างกระทั่งย้ายบ้านย้ายโรงเรียนและสละเวลาที่จะอยู่กับครอบครัวเพื่อหาเลี้ยงชีพหรือเพื่อนคงสถานะ
ทางสังคมแล้ว เรื่องราวในส่วนช่างภาพปริศนาที่รับบทโดย ดาง์ว ก็ยังสามารถบอกเล่าเรื่องราวอันซับซ้อนในสังคมพม่าที่ผ่านประว้ติศาสตร์อันน่าเจ็บปวดได้อย่างแนบเนียน
เพราะยิ่งหนังพยายามไม่พูดถึงการเมืองแบบตรงๆเราก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงสารทางการเมืองที่แฝงอยู่อย่างเข้มข้น ทั้งประวัติศาสตร์การถูกกดขี่ของประชาชนและการถูกทอดทิ้งผ่านชะตากรรมเด็กกำพร้า ความล้มเหลวของความเป็นมารดาของผู้ปกครอง
ความน่าสนใจของเรื่อง
เป็นหนังผีที่ไม่ได้ออกแนวสยองขวัญแบบพวก Conjuring แต่จะออกแนวหลอนแบบเรียล ๆ ให้ผีโผล่ออกมาแบบออกมาและผุบหายเข้าไปในความมืดและใช้โทนสีที่ออกมืด ๆ ครึ้ม ๆ ในการสร้างความระแวงหวั่นใจให้แก่ผู้ชมจึงทำให้รู้สึกว่าน่าลุ้นทุกฉาก
โดยผีตัวหลักที่ออกมาให้เห็นก็คือ “ผีเด็กผู้หญิง”ซึ่งวัยเดียวกับลูกสาวของนางเอก ตัวหนังถ่ายทอดความจุกและความเหงาของผีเด็กที่ต้องอยู่แบบทรมานโดดเดี่ยวผ่านคืนวันมาหลายปีโดยที่ชีวิตเธอไม่เคยพบแม่
เธอจึงได้พยายามเข้าหาลูกนางเอกจนทำให้เราวิตกว่าเด็กคนนี้ต้องการจะสิงร่างลูกนางโดยสมบูรณ์แน่ ๆ เพราะอยากให้นางเอกมาเป็นแม่ตน
แต่พอความจริงเริ่มเปิดเผยทีละนิดจึงทำให้รู้ว่าในบ้านหลังนี้ผีเด็กไม่ใช่วิญญาณที่น่ากลัวหรือคิดร้ายอะไรกับลูกนางเอกเลย แต่ศัตรูตัวจริงที่นางเอกกับสามีต้องระวังและผีเด็กก็ยังหวาดกลัวสุดใจนั่นก็คือ “ผีเจ้าของบ้านคนเก่าที่เป็นพ่อของเด็กน้อย”ต่างหาก
ตรงจุดนี้ถือเป็นมิติใหม่ของหนังเมียนมาร์ซึ่งเล่นกับอาการทางจิตมาผนวกกับการทำไสยศาสตร์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้เราเห็นว่าการรักใครคนหนึ่งแบบขาดสตินั้นน่ากลัวกว่าผีอีก! และนางเอกก็จะต้องหาทางช่วยลูกของเธอให้ได้ ในตอนจบของเรื่องจะออกแนวคล้าย ๆ Silent Hill หน่อย ซึ่งก็น่าประทับใจแบบคาดคิดไม่ถึง
ภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับผีสางแบบนี้ก็ต้องเต็มไปด้วยความเชื่อต่าง ๆ นานาอยู่แล้ว ซึ่งหลาย ๆ ความเชื่อก็สอดคล้องกับเรื่องราวของบ้านเรา (ก็ประเทศเราใกล้กันนี่เนอะ) โดยเฉพาะความเชื่อเรื่องผีและวิญญาณ ที่บ้านเรากับเมียนมาเองก็มีคนทรงเจ้า (ส่วนเมียนมาเรียกว่า นัตกะดอว์)
หรือการเลี้ยงดูผีไว้ใช้งาน ที่บ้านเราก็เลี้ยงกุมารทอง บ้านเขาก็เลี้ยงผีนัตบ้าง ดังนั้นเรื่องนี้ก็จะเป็นสะพานเชื่อมเรื่องราวของความเชื่อต่าง ๆ ในภาพยนตร์ให้เราอินมากขึ้นอีก
ที่จริงแล้วในกองถ่ายนี้ก็มีเรื่องลี้ลับที่ชวนเศร้าเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน หากใครได้เข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้กันมาแล้ว น่าจะได้เห็นว่าหลังจบภาพยนตร์ มีการขึ้นข้อความถึงอู หล่า เอย์ หนึ่งในนักแสดงของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย อู กล่า เอย์ แสดงเป็นนัตกะดอว์
หรือร่างทรงผีนัตในเรื่อง ซึ่งตัวจริงของอู หล่า เอย์ นั้นก็เป็นนัตกะดอว์จริง ๆ เขาไม่เคยแสดงภาพยนตร์หรืออยู่หน้ากล้องมาก่อนเลย แต่การได้แสดงอะไรสักอย่างถือเป็นความฝันของเขา
เมื่อผู้กำกับภาพยนตร์ติดต่อไปหา อู หล่า เอย์ จึงตอบตกลงในทันที แม้ในช่วงแรก ๆ ของการแสดง เขาอาจยังไม่เข้าที่เข้าทางด้วยความใหม่ของงานแสดง แต่เมื่อเขาเริ่มเข้าถึงตัวละคร และเข้าถึงเรื่องราวของภาพยนตร์ที่เกิดขึ้น
เขาก็ได้มอบการแสดงที่ดีเยี่ยมเอาไว้ให้กับมาร-ดา หลังเสร็จสิ้นการถ่ายทำ เขายังคุยกับทุกคนอย่างยิ้มแย้มและสนุกสนาน และเมื่อกลับจากกองถ่ายไปสู่บ้านเพียง 2 ชั่วโมง อู หล่า เลย์ ก็จากไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน
The Only Mom มาร-ดา สรุปหลังรับชม
หนังสร้างบรรยากาศความสยองขวัญได้ดี มีปมปัญหาค่อนข้างซับซ้อน มีความลับลมคม มีการค่อย ๆ สืบหาต้นตอที่มาที่ไป มีการสลับสารระหว่างอดีตกับปัจจุบันได้ดี มีวิธีการเล่าเรื่องและลับดับของเรื่องที่ค่อนข้างดีมาก และมีการเฉลยแบบการหักมุมจบ ส่วนสำคัญที่ดีในแบบที่หนังผีไทยเคยสร้างความดีงามกับแนวทางเอาไว้ในยุคหนังผีรุ่งเรือง เรียกได้ว่าหนังผีไทยในยุคปัจจุบันนับตั้งแต่ค่าย GTH ปิดตัวลงไป
หรือแม้แต่ค่าที่สร้างหนังผีอย่างสหมงคลฟิล์ม หรือไฟว์สตาร์โปรดักชั่น ก็หาแนวทางที่ดีงามแบบนี้แทบไม่เจออีกแล้ว สำหรับผมมองว่า มาร-ดา นำความรู้สึกของหนังผีดี ๆ แบบเก่าที่เคยดีงามครั้งอดีตกับคืนมา
การออกแบบผีดี การออกจังหวะดึงอารมณ์ความน่ากลัวดี และการสร้างจังหวะความตกใจทำได้ดี รวมถึงการให้โทนของสีหนังทำออกมาได้ดีดูแล้วทำให้เรารู้สึกคอยตามและรู้สึกเสื้อตัวละคร
นักแสดงเล่นดีทุกคน มีการนำเสนอความน่ากลัวระหว่างผีไปพร้อม ๆ กับมิติการเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของครอบครัวได้ดี แถมยังให้ความสำคัญเกี่ยวกับเพศ สถานะ บทบาท หน้าที่ของการเป็นพ่อและแม่ และตั้งคำถามกับสังคมในประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ของครอบครัว
เป็นภาพยนตร์ผีสยองขวัญที่มีความน่าสนใจในเรื่องการใช้บรรยากาศและวิธีการเล่าเรื่องที่ดี ทำให้เรา หันมามองภาพยนตร์หนังผีสยองขวัญไทยว่าสิ่งดีงามที่เคยมีมานั้น หายไปไหน
ความคิดเห็นจากผู้เขียน
ต้องยอมรับความดีงามส่วนหนึ่งของหนัง The Only Mom ว่ามาจากทีมงานไทยที่เชี่ยวชาญ นอกจากผู้กำกับ ชาติชาย เกษนัส ที่กำกับความกลัวและจังหวะหนังอย่างแม่นยำแล้ว งานกำกับภาพของ เปีย ธีรวัฒน์ รุจินธรรม
ยังยกระดับความอินเตอร์ของหนังด้วยการกำหนดแสงเงาและวางสีสันในภาพที่ให้ความไม่อิ่มตัวของสีภาพมาส่งเสริมบรรยากาศความไม่น่าไว้วางใจของหนังได้เป็นอย่างดี ผสมผสานการประพันธ์ดนตรีประกอบเปี่ยมอารมณ์ของ พงษ์พรหม สนิทวงศ์ ณ. อยุธยา ในเพลง Until We Meet Again ที่มีเนื้อเพลงกล่าวถึงเพลงกล่อมเด็กสุดสยองเคล้าเสียงร้องอันโหยหวนที่น่าจะติดหูติดหัวได้ไม่ยากแล้ว
เรายังต้องชื่นชมทีมงานชาวพม่าที่นอกจากบทภาพยนตร์ของทีมงานชาวพม่าที่เหมือนเขียนประวัติศาสตร์ผ่านหนังผีได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว นักแสดงนำทั้งสามยังสวมบทบาทได้อย่างเข้าถึงและเข้าใจในตัวละคร พาคนดูอินได้ไม่ยากเลยทั้ง คิท คิท วุด มน ชเว ยี ที่ก้าวข้ามการเป็นนางเอกหน้าสวยสู่นักแสดงขายฝีมือได้อย่างน่าชื่นชม ส่วน ไนน์ ไนน์
ก็สามารถแสดงหนังดราม่าได้ดี แม้จะคุ้นเคยกับหนังบู๊มากกว่า เชื่อว่าสาวๆน่าจะกรี๊ดหนุ่มไนน์ ไนน์ ได้มายากเลยเพราะทั้งหล่อและล่ำมาก ส่วน ดาง์ว
ไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาจะสามารถรับบทที่มีความซับซ้อนทางปมจิตวิทยาได้อย่างยอดเยี่ยม การใช้ร่างกายของเขาช่วยให้การแสดงสามารถสื่อสารกับผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในอดีตการถ่ายภาพคือวาระพิเศษของชีวิต และหลายครั้งมันถูกใช้เพื่อบันทึกภาพสุดท้ายของใครบางคนด้วยหวังว่าจะเก็บภาพนั้นไว้นอกจากความทรงจำ และมันจะยังคงอยู่ไปตลอดกาล…แต่จะเป็นอย่างไรหากสิ่งที่อยู่ในนั้นไม่ได้มีเพียงภาพถ่าย แต่ใครบางคนยังรอคอย ความช่วยเหลืออย่างทรมานมาเนิ่นนาน
หนังเล่าเรื่องของครอบครัวแสนสุขที่ค้นพบภาพถ่ายฟิล์มกระจกบานหนึ่ง แต่หารู้ไม่ว่าในนั้นยังมีวิญญาณเด็กที่ถูกกังขังมาหลายสิบปี นับจากวันนั้นมา ลูกสาวตัวน้อยของพวกเขาก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และกลายเป็น ความท้าทายในการนิยามความเป็นแม่ขั้นสุด
สุดท้ายเรามีรีวิวหนังที่อยากจะมาแนะนำเพื่อนๆทุกคน นั่นก็คือเรื่อง Love and Monsters หนังมีเรื่องราวในจินตนาการของโลกยุคอนาคต เมื่อถูกอุกกาบาตขนาดมหึมาพุ่งชนจนส่งผลให้เชื้อโรคที่มากับก้อนอุกกาบาตไปทำปฏิกิริยากับคนและสัตว์นานาชนิดบนโลก ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ติดตามอ่านได้ที่นี่เลย